ตอนที่ 2 พบท่าน

by admin

ตอนที่ 2 พบท่าน

by admin

by admin
ตอน 2 พบท่าน

ต่อเลยนะครับ. พอกลับมาถึงบ้านด้วยความสงสัยผมจึงโทรหาอาจารย์ท่านนึงที่เค้าปฏิบัติโดยปกติอาจารย์ท่านนี้ผมโทรหาท่านบ่อยอาศัยญานของท่านดูเรื่องธุรกิจของผม. ท่านบอกผมว่าผมมีความเกี่ยวข้องกับที่วัดแห่งนี้และมีความผูกพันบางอย่าง. เวลานั้นคำตอบที่อาจารย์ท่านนี้บอกผมยังไม่ทำให้ผมหายสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น. หลังจากนั้นประมาณ1เดือนผมมีโอกาสไปประมูลงานที่จังหวัดสุโขทัยแต่เที่ยวนี้มีแม่ไปด้วย. ขอกล่าวเรื่องแม่ผมสักนิดครับ. แม่ผมนับถือพุทธมาตั้งแต่เกิดแต่ด้วยความที่ต้องแต่งงานกับพ่อที่เป็นมุสลิม. แม่ผมจึงต้องเปลี่ยนศาสนามานับถือศาสนาอิสลาม. แต่ก็มีไหว้พระบ้างเวลากลับไปเยี่ยมตากับยายผมที่ต่างจังหวัด. สารภาพตามตรงผมเห็นแม่ไหว้พระก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ก็เข้าใจเค้าเคยไหว้ของเค้ามาก่อน แต่เวลาอยู่บ้านก็จะไม่ทำอะไรที่ขัดต่อหลักศาสนาเลยและทำให้พ่อสบายใจ

ผมทำธุระเสร็จที่สุโขทัยก็กลับมาถึงนครสวรรค์ราวๆบ่าย3เลยชวนแม่. ตอนนั้นเล่าให้แม่ฟังเรื่องการไหว้พระครั้งแรกของผมก็เลยชวนแม่มาไหว้หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา. และบอกแม่ว่าคราวที่แล้วมาไหว้แล้วร้องไห้เป็นเรื่องเป็นราว. หลังจากไหว้พระเสร็จก็ขับรถมาถึงจุดเดิมครับหน้าวิหาร100เมตร คราวนี้ผมร้องอีกแล้วครับ จุดเดิม ร้องหนักเหมือนเดิมครับ. แม่ตกใจครับ เรียกว่าตกใจมากผมก็งงเหมือนเดิมครับ แม่เลยบอกให้ผมจอดรถก่อน. เวลานั้นก็ราว4โมงกว่าแล้วก็จอดรถหน้าวิหาร100เมตร. ผมบอกแม่ครับว่าต้องมีอะไรแน่ๆแล้วไม่เคยเป็นแบบนี้. ตอนนั้นก็มองไปที่วิหารเห็นว่าสวยดีเลยชวนแม่เข้าไปข้างในเห็นประตูล็อคเปิดปิดเป็นเวลาก็เลยไม่ได้เข้าไปครับ. จากนั้นก็กลับระหว่างทางก็คุยกันเรื่องนี้มาตลอดและผมรู้สึกกว่าอยากจะเข้าไปในวิหาร100ม.เลยตัดสินใจครับพรุ่งนี้ผมต้องมาอีกและเข้าไปดูข้างในให้ได้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในวิหาร. พอกลับถึงบ้านก็เปิดเน็ตดูเลยครับความโง่ของผมก็เริ่มคลายเมื่อรู้ว่าข้างในมีสังขารหลวงพ่อฤาษีลิงดำอยู่ในโลงแก้วและไม่เน่า. อ่านไปอ่านมาก็อ๋อเลยครับถึงบางอ้อ. เป็นพระรูปเดียวกันกับที่ลงในนะโม

แต่เช้าเลยครับผมกะเวลาให้มาถึงตอนวิหารเปิด. เป็นครั้งแรกครับที่ผมกราบสังขารพระและก็นั่งมองรูปหลวงพ่อเวลานั้นมีความรู้สึกว่าผมเคยรู้จักและผูกพันและรักท่านอย่างบอกไม่ถูกครับ. แต่คราวนี้ไม่ร้องไห้ครับ. ตอนแรกกลัวเหมือนกันเกิดเข้ามาแล้วร้องไห้โฮคงจะวงแตกเป็นแน่ครับ. ผมนั่งมองรูปท่านราวครึ่งชั่วโมง. มันแปลกครับตื้นตันใจมากทั้งที่ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน. จากนั้นก็กลับครับ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้รู้จักท่านและอยากรู้จักท่านมากขึ้น

จากวันนั้นเป็นต้นมาผมก็ค้นหาประวัติท่านในเน็ตโหลดคำสอนท่านมาฟังเรื่อยมา จนช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ช่วงนั้นทะเลาะกับแฟนครับจนถึงขั้นเลิกลากัน. ขนข้าวของออกจากบ้านเล่นซะผมฟุ้งซ่านนอนไม่หลับทุกข์ใจมาก. และเหตุนี้ทำให้ผมเข้าหาพระพุทธศาสนามากขึ้นฟังธรรมหลวงพ่อมาขึ้นเรียกว่าแทบทั้งวันทั้งคืนและสนใจจะปฏิบัติกรรมฐานที่ท่านสอน. จำได้แม่นเลยครับวันนั้นเป็นวันที่ 5 ธันวาคม 2553 ผมไปฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกที่ซอยสายลม. วันนั้นผมไปถึงราว10โมงเห็นคนมากันมากเหลือเกิน ช่วงหลังมานี่ผมก็จัดหนักเลยครับเรียกว่าจัดเต็มที่กันไปเลยทั้งไหว้พระ ทำสังฆทาน นี่ถ้าพ่อรู้คงโดนเนรเทศออกจากตระกูลแน่ วันนั้นก็ถวายสังฆทานและไปซื้อหนังสือต่างๆcdของหลวงพ่อแล้วขึ้นไปรอฝึกมโนมยิทธิ

ผมได้ครูฝึกท่านมีอายุพอสมควรเป็นผู้หญิงครับอายุน่าจะ70ขึ้น ในใจตอนนั้นคิดว่าเราจะนั่งได้มั้ยปกติเป็นคนนั่งขัดสมาธินานไม่ได้เมื่อยปวดเข่าและเป็นคนไม่ชอบอดทนกับการนั่งนานๆ เรียกว่าอยู่นิ่งๆนานๆไม่ได้

ในห้องที่ผมฝึกมีอยูประมาณ15คน จากนั้นครูฝึกก็เริ่มอธิบายความต่างๆก่อนฝึกผมฟังอย่างตั้งใจและคิดว่าฝึกได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะนี่ก็ครั้งแรกในชีวิตอีก. ได้ยินเขาคุยกันว่าฝึกมาหลายปียังไม่ได้ไปเห็นอะไร. จากนั้นเริ่มสวดมนต์ สมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน ไอ้ผมก็ท่องตามถูกบ้างผิดบ้างจากนั้นก็ฟังคำสอนหลวงพ่อและเริ่มนั่งสมาธิ…

นั่งมาได้สัก 5 นาทีผมก็เริ่มเมื่อยปวดหัวเข่าจะขยับก็ไม่กล้าก็ทนครับพยายามเอาจิตจับลมหายใจเข้าออกก็นะมะพะทะไปเรื่อย จนผมลืมไปว่าปวดขาปวดเข่าอยู่ นั่งมา 15 นาทีได้ครูฝึกก็ให้หยุดภาวนาจากนั้นก็บอกให้นั่งตามสบายหลับตาไว้. ส่วนผมก็นั่งท่าเดิมอยู่เพราะไม่รู้สึกว่าเมื่อยแล้ว ครูก็บอกให้เราคิดตามครับว่าการเกิดเป็นมนุษย์มันทุกข์ยังไงบ้างพูดจนเราเบื่อหน่ายร่างกาย จากนั้นครูก็บอกว่าให้เราทุกคนเชื่อในความรู้สึกแรกถามอะไรก็ให้ตอบไม่ต้องกลัวว่าผิดหรือถูกให้ใช้ความรู้สึกแรกไม่ต้องคิด. นี่เป็นบทสนทนาเท่าที่ผมจำได้นะครับ

ครู:ตอนนี้มีความรู้สึกว่ามีใครมาอยู่ตรงหน้าไหม

คนอื่น:มี

ผม:มี

ครู:เป็นใคร. พระ พระพุทธรูป คนหรือใคร

คนอื่น:พระสงฆ์ พระพุทธเจ้า (บางคนไม่ตอบ)

ผม:พระ(พระที่ผมเห็นเป็นพระสงฆ์แต่กายกับจีวรเป็นสีขาวสว่างใส)

ครู:พระที่มารับก็คือพระพุทธเจ้านะให้กราบท่านและขอบารมีท่านให้ท่านพาไปพระจุฬามณีเจดีย์สถาน

ผม:เห็นตัวเองแต่งตัวคล้ายเทวดากำลังก้มลงกราบพระรูปนั้นอยู่

คนอื่น:ผมไม่รู้

ครู:มาถึงหรือยัง

คนอื่น:ถึงแล้ว

ผม:ถึงแล้ว

ครู:เห็นพระจุฬามณีไหมเป็นสีอะไร

คนอื่น:สีขาวบ้างปูนบ้างแก้วบ้าง

ผม:สีทอง(ระหว่างนี้ผมสงสัยครับทำไมไม่มีใครเห็นสีทองจิตตกทันทีครับรู้สึกว่าลงมาอยู่ที่ร่างกายตอนนี้รู้สึกปวดขาขึ้นมาทันทีครับผมเลยคิดว่าร่างกายนี้มันไม่ใช่ของเรามีน้ำเลือดน้ำหนองสกปรกจากนั้นก็ขึ้นไปได้อีก)

ครู:ให้ขอบารมีพระพุทธเจ้าขออนุญาติท่านเข้ามาข้างในพระจุฬามณี

คนอื่น: เข้ามาแล้ว,บางคนบอกเข้าไม่ได้

ผม:เข้ามาแล้ว (ขอย้อนไปนิดนึงครับพระจุฬามณีที่ผมเห็นนั้นมีสภาพคล้ายกับภูเขาทองที่วัดสระเกษ มีเจดีย์ตรงกลางและพื้นที่โดยรอบคล้ายกับที่วัดสระเกษ) ข้างในนั้นผมเห็นพระสงฆ์ เทวดาเยอะเต็มไปหมด

ครู:เห็นพระพุทธเจ้าท่านนั่งอยู่ข้างหน้ามั้ย

คนอื่น: เห็น

ผม:เห็น(ผมเป็นคนขี้สงสัยครับเมื่อกี้พระพุทธเจ้าไปรับแล้วนำเดินเข้ามาอยู่ๆมีอีกองค์นั่งอยู่ข้างหน้าองค์ใหญ่มากตัวผมเล็กนิดเดียวทำไมมีพระพุทธเจ้าอีกองค์)มาทราบตอนหลังว่าพระพุทธเจ้ามีเป็นแสนองค์

ครู:ให้เข้าไปกราบท่านที่พระบาท

ผม:กราบแต่ยังอดคิดไม่ได้ว่าทำไมพระพุทธเจ้ามี 2 องค์

ครู:พระพุุทธเจ้าท่านเครื่องทรงเป็นอย่างไร

คนอื่น:ห่มจีวร บางคนบอกเหมือนเทวดา

ผม: ห่มจีวรสีใสเป็นแก้ว

ครู:การที่เราเห็นต่างกันนั้นเป็นเพราะกำลังจิตและกำลังสมาธิของแต่ละคน

ครู:ขอบารมีพระท่านพาเราไปยังบัณฑุกำพลศิลาอาส

ครู:ถึงหรือยัง

คนอื่น:ถึงแล้ว

ผม:ถึงแล้ว

ครู:เห็นใครอยู่ตรงนั้นไหม

คนอื่น:ไม่เห็น. บางคนเห็น

ผม:เห็น

ครู:ให้ถามท่านว่าท่านเป็นใคร

คนอื่น:เงียบ บางคนบอกเทวดา

ผม:เงียบครับ(ที่เงียบเพราะท่านบอกผมว่าท่านคือพระอินทร์ผมเห็นว่าตัวท่านไม่เขียวก็เลยไม่ตอบครับ)

ครู:ท่านคือท่าวโกสีสักกะเทวราชหรือเราอีกท่านว่าพระอินทร์

ผม:ตอนนี้ผมอึ้งเลยครับขนลุกซู่ทั้งตัวตอนนี้รู้สึกว่านี่มันของจริงหรอไม่ได้คิดไปเองหรือเปล่า

ครู:กราบท่านนะ

ครู:ขอบารมีพระพุทธเจ้าและท่านปู่พระอินทร์เชิญบิดามารดาเราทั้งหมดมารวมกันที่นี่

ผม:ผมเห็นมากันเต็มไปหมดเลยครับ

ครู:ด้วยความเป็นทิพย์ของจิตให้กำหนดแยกกายเราให้เท่ากับจำนวนท่านแล้วกราบท่าน

ผม:ผมแยกร่างออกได้เยอะเลยครับแม่บางคนกอดผมบางท่านก็ลูบหัวบางท่านก็พูดคุยบอกคิดถึงบ้าง

ครู:ขอบารมีพระพุทธเจ้าและท่านปู่ขอเชิญครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณมาที่นี่

ผม:เห็นมีทั้งพระ เทวดามาเพียบเลยครับ ก็แยกกายในกราบท่าน

ครู:ให้กราบลาท่านปู่และขอบารมีพระพุทธเจ้าพาไปยังพระนิพพาน

ผม:มาถึงเห็นทุกอย่างเป็นแก้วสว่างมากครับ

ครู:ให้ทูลถามท่านนะว่าเรามีวิมานบนพระนิพพานไหม

คนอื่น:มีบ้างไม่มีบ้างเงียบบ้าง

ผม:มีครับ

ครู:ขอบารมีท่านให้ท่านพาไปยังวิมานของเรา

ผม:เห็นสิ่งที่เขาเรียกว่าวิมานมีรั้วเป็นแก้วครับตัววิมานหลังคาแหลมเป็นแก้วขาวใสสว่างแพรวพราวสวยมากครับ

ครู:ให้เดินเข้ามาข้างในมีอะไรบ้าง

คนอื่น:มีแท่น มีเตียง ไม่มีอะไร มีโต๊ะหมู่บูชา

ผม:มีแท่นอยู่ข้างหน้าครับ

ครู:ให้ลองนั่งหรือนอนบนแท่นนั่งได้ไหม

คนอืน:ได้บ้างเงียบบ้างไม่ได้บ้าง

ผม:ได้

ครู:คนที่มีวิมานบนนี้และสามารถนั่งนองบนแท่นที่นั่งได้นั้นชาตินี้มีโอกาสมาพระนิพพานได้ให้หมั่นฝึกปฎิบัติและให้จำอารมณ์นี้ไว้นะดีใจไหม. จำไว้นะให้ฝึกฝนและขึ้นมาบ่อยๆจดจำอารมณ์ดีใจนี้ไว้

ครู:ให้กราบลาพระพุทธเจ้านะแล้วลืมตาได้

ผม:พอลืมตาแทบขยับตัวไม่ได้ปวดมากครับต้องใช้มือช่วยงัดขาออก

จากนั้นครูฝึกก็เริ่มเช็คชื่อถามเป็นรายตัวบางคนท่านบอกวางอารมณ์ไม่ถูกบ้างบางคนภาวนาเป็นพุทโธบ้าง ก็มีหลายคนที่ไปได้หลายคนไปไม่ได้แต่ที่น่าแปลกคือ. ครูฝึกท่านรู้ว่าแต่ละคนคิดอะไรสงสัยอะไรหลายคนที่มาฝึกน่าจะคิดแบบเดียวกับผมว่าท่านรู้ใจรู้ความคิดเราได้ยังไง. พอถึงคิวผมท่านถามไปได้มั้ยผมบอกไปได้ครับแล้วท่านก็ถามคนอื่นต่อ. ด้วยความสงสัยอยากรู้ผมรอให้คนอื่นทยอยกลับจนเหลือแค่ผมกับครูฝึกและคนอื่นอีก2-3คน ผมถามท่านว่าอาจารย์ครับทำไมพระอินทร์ท่านตัวไม่เขียว ท่านบอกว่าแล้วทำไมผมไม่ตอบละทั้งที่รู้ว่าเป็นพระอินทร์. ผมงงเลยครับท่านรู้ว่าผมรู้แต่ไม่ตอบ แล้วท่านก็บอกว่าพระอินทร์ตัวท่านไม่ได้เขียวแต่ชฎาท่านเขียว. ผมถามต่อว่าพออาจารย์ตอบว่าพระอินทร์ทำไมผมถึงขนลุกซู่ซ่าไปหมด ทั้งที่ตัดร่างกายแล้ว ท่านตอบว่าการไปของเราไปแบบครึ่งกำลังและยังมีความรู้สึกทางกายอยู่อีกทั้งผมมีความผูกพันกับท่านปู่พระอินทร์. จากนั้นท่านบอกผมว่าคราวน่าถ้าฝึกให้ฝึกญาน8นะเพราะเธอเคยได้มาก่อนของเก่าเธอมีแต่ใช้ไม่เป็นให้ตั้งใจ

นี่เป็นประสบการณ์ในการฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกของผมครับมีเวลาจะมาเล่าต่อครับนี่แค่เริ่มต้นยังมีเรื่องเหลือเชื่ออีกหลายอย่างครับ…และผมขอเป็นกำลังใจให้ท่านที่เริ่มปฏิบัติจงตั้งใจเชื่อมั่นในคำสอนของหลวงพ่อผมว่าทุกคนทำได้ครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top