สำหรับเรื่องต่อไปที่จะเล่า….ก็เป็นเรื่องครบรอบ 1 ปี มโนมยิทธิของผม
แหมเผลอแป๊บเดียวก็ครบรอบ1ปีแล้วครับ เมื่อวันที่4 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันแรกที่ฝึกจนถึงวันนี้ก็ไม่น่าเชื่อครับว่าจะก้าวกระโดดไปไกลขนาดนี้ครับ มันเหมือนจะง่ายก็ว่าง่ายมันเหมือนจะยากก็ว่ายาก ที่ว่าง่ายคือไปง่ายมากครับแค่นึกว่าจะไปก็ถึงทันที ไปได้ทุกที่ที่ต้องการ ส่วนที่ยากนี่ยากตรงเต็มกำลังมันไปยากจังทุกวันนี้ หากใครเคยพบผมหรือเห็นผมก็จะเห็นผมใช้มโนมยิทธิง่ายมากแต่สั่นทุกที ภาพที่เห็นจะชัดมากครับ หลายคนบอกครับว่าผมเลยจุดแย่สุดของชีวิตมาแล้ว
ชีวิตผ่านความทุกข์มาเยอะครับ ทุกข์ในทุกเรื่องที่เขาทุกข์กัน การงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ ผมล่อหมดทุกข้อ ทุกวันนี้ไม่มีสิ่งใดทำให้ผมทุกข์ไปมากกว่านี้ครับเรื่องเครียดเวลานี้แทบไม่มีครับ มันเลยตัดได้เด็ดขาดบางคนมองไม่เห็นความทุกข์อันนี้มีมาก แต่ผมนี่สัมผัสหมดครับทุกข์จนไม่ทุกข์และวางได้มากครับ ตรงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดครับ
ตั้งแต่วันที่ 5ธันวาปี53 เป็นต้นมาก็พบเรื่องทุกข์มาพอสมควร เอาง่ายๆนะบางคนอาจคิดว่ามันจะทุกข์อะไรนักหนา ขนาดคุณแม่ผมนะครับบอกเองเลยว่าไม่เครียดเลยหรอ ถ้าเป็นแม่คงตายไปนานและ แต่ผมนี่เฉยและสู้จริงๆครับ ช่างมัน ช่างแม่ง คำเหล่านี้อยู่ในใจมาตลอดครับ ทำงานกว่าจะได้ตังช้าก็ช่างมัน โดนหลวงปรับค่าทำงานล่าช้าไป4แสนกว่าก็ช่างแม่ง รถโดนยึด5คันรวดก็ช่างแม่ง โดนฟ้องเช็คเด้งทีห้าหกใบก็ช่างแม่งครับแต่ไปขึ้นศาล สรรพกรมาเยี่ยมโดนย้อนหลังไปเกือบ2ล้านก็ช่างแม่งกูไม่จ่าย สารพัดครับผมเชื่อว่าน้อยคนครับที่เจออย่างผมแต่ยังอยู่ได้แบบชิวๆ
ยอมรับครับว่าเลวในทางโลกแต่ดีในทางธรรม ปล่อยวาง เป็นหนี้เค้าก็ปล่อยวางครับ ไม่ใช่เงินเราคนที่เครียดคือเจ้าหนี้ไม่ใช่ผม งานโดนปรับไปหลายๆแสนก็เฉยครับหาใหม่ก็ได้ ผมมีความรู้สึกจริงๆครับว่าผมเป็นคนหางานเก่งมาก คือมันเก่งเกินทำไม่ทันเลยโดนปรับทุกวันนี้เฉยมากครับได้งานกำไรมากก็เฉย กำไรน้อยก็เฉยๆ
สุขภาพก็ลุ่มๆดอนๆ จะไหลตายหลับไม่ตื่นวันไหนก็ไม่รู้เหนื่อยกว่าคนปกติ2เท่าครับหายใจยังเหนื่อย อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง บอกแฟนไว้ก่อนหากตายตอนคลุกคลีก็ช่วยเอาศพไปทิ้งเลยอย่าฝัง อายแทนครอบครัวและวงตระกูล จริงๆทุกวันนี้ก็หงุดหงิดตัวเองครับนิดๆหน่อยๆเหนื่อยแล้ว มันก็เลยเบื่อหน่ายครับเบื่อในร่างกายมันไม่ได้ดั่งใจครับ เมื่อก่อนผมขับรถไปยื่นซองเชียงใหม่นี่ ออกจากบ้านเที่ยงคืนถึงเชียงใหม่ตี5แวะนอนปั๊มตื่นมาเจ็ดโมงก็จัดแจงตัวเองและไปรับซองจากทำเอกสารยื่นซองเสร็จ ขับรถกลับเลยมาถึงกทม.บ่าย2อะไรแบบนี้ สบายมากครับ
แต่เดี๋ยวนี้แหมจะว่าแก่ก็ยังนะ เพิ่งวัยกลางคน แต่ทำแบบเดิมไม่ได้ มันก็เลยเบื่อร่างกายครับก็เลยตัดร่างกายได้ง่ายกว่าคนอื่นครับ หลังจากฝึกครั้งแรกก็ฝึกมาเรื่อย ด้วยความสงสัยครับฝึกเสร็จก็สงสัยตลอดจนเริ่มหายสงสัยและพัฒนาการดีขึ้นทุกครั้งที่ไปฝึกที่ศูนย์ครับ ทุกครั้งที่ผมไปฝึกกลับมาคิดตลอดว่ามันดีขึ้นจริงๆหรือว่าฟลุ๊ค เวลานี้ก็หายสงสัยครับ เมื่อช่วงกลางปีก็มีสับสนบ้างครับว่าญาน8แต่ละตัวนี่ใช้ยังไง วางอารมณ์ยังไง ก็งงๆอยู่พักนึงครับ และต้องการฝึกเจโตปริยญานแหมผมบอกตรงๆนะชอบเจโตมากจนทุกวันนี้อยากปิดเจโตจริงๆครับ มันรู้ทุกอย่างจริงๆใครคิดอะไร อารมณ์เป็นอย่างไร รู้หมดเหมือนตัวผมเข้าไปอยู่ในหัวใจคนๆนั้น และเปิดลิ้นชักค้นใจได้ประมาณนั้นครับ อย่าหาว่าผมโอ้อวดเลยนะครับแต่มีท่านผู้อ่านในนี้เจอกับตัวมาแล้วผมรู้ความคิด ความรู้สึก ทุกสิ่งอย่างในตัวเขาครับ แรกๆก็ไม่กล้าทักเค้าครับหลังๆนี่หมดครับทักหมดตรงหมดกลายเป็นรู้จักตัวเค้ามากกว่าตัวเข้าเอง ก็แปลกดีครับ ญาณตัวอื่นก็ฝึกแต่ไม่คล่องครับ มีอีกตัวนึงก็การดูกรรมครับ ครั้งแรกของการดูกรรมนี่เมื่อเร็วๆนี้เองครับ
การดูกรรมนี่แปลกครับ ที่ว่าแปลกคือมันสลับซับซ้อน ดูไปดูมาก็งงๆ มันชาติไหนกัน งงจริงๆครับ ภาพที่ปรากฏนี่มันหลายชาติโผล่ขึ้นมา หากดูกันจริงๆผมว่าวันนึงก็ไม่หมดครับ น้องที่มาถามเรื่องกรรมนี่ ผมจะไม่ค่อยมั่นใจครับบางทีก็งงๆ บางทีเจ้ากรรมก็แห่กันมา เล่นเอาปวดหัวครับ เลี่ยงได้ก็จะพยายามเลี่ยงครับ ตัวเองยังจะเอาไม่รอดจะไปทะลึ่งดูกรรมให้คนอื่นก็จะไปกันใหญ่ เอาไว้แก้กรรมตัวเองรอดก่อนก็อาจจะดูให้คนอื่นนะครับ
อันนี้สำคัญหากคิดว่าจะช่วยใครก็เอาตัวเราให้รอดจากกรรมเราก่อนครับ มีญานอยู่ตัวนึงครับคือดูปัจจุบันตัวนี้แรกๆฟิตหลังๆไม่ค่อยเกิดประโยชน์และอุปาทานแทรกง่ายครับ เลยไม่ค่อยได้ฝึกส่วนอนาคตังนี่ใช้บ่อยครับญานตัวนี้ผมใช้ควบคู่กับเจโต บางทีมีคนถามนู้นนี่นั่น ก็ดูจิตเค้าก่อนและดูอนาคต ก็ไม่รู้ตรงไม่ตรงถูกไม่ถูก บางที่ก็ถามแบบว่าถ้าทำแบบนี้จะเป็นยังไง ทำอีกแบบจะเป็นยังไง เออผมก็ดันทะลึ่งดูได้อีกว่าทำแบบไหนจะเกิดผลยังไง แต่ถูกไม่ถูกก็อีกเรื่องครับ
อาจารย์สอนมโนมยิทธิผมท่านแรกคือป้าโมทย์แห่งบ้านสายลมครับ ผู้หญิงสูงอายุ ตัวเล็กใจดี ท่านคงไม่ทราบว่าผมวันนี้ไปได้ไกลแค่ไหนครับ เพราะหลังจากฝึกเมื่อ5ธ.ค 53 ก็ไม่เคยเจอท่านอีกครับหากครั้งแรกผมไม่ได้ป้าโมทย์ อาจฝึกไม่สำเร็จและคงไม่ได้มาถึงทุกวันนี้ และไม่มีวันลืมท่านครับ
อาจารย์ท่านที่2 อาจารย์ชนะครับ ยอมรับตรงๆครับ ว่าหากไม่ได้ท่านผมไม่เก่งเท่าทุกวันนี้ครับ ท่านเมตตาสูง ไปฝึกแต่ละทีไม่เคยเอาดอกไม้ไปซักครั้งครับจนทุกวันนี้ก็ไม่เคยเอาไป มันน่าตีจริงๆ แต่ท่านก็ไปเด็ดดอกไม้ให้ผมทุกครั้ง การฝึกแต่ละครั้งผมก้าวหน้าทุกครั้งครับ ตลอด1 ปีที่ผ่านมาท่านเปรียบเสมือนพ่อคนที่ 2 ของผมครับทำให้ผมได้รู้จักพระพุทธศาสนามากขึ้น รู้จักมโนมยิทธิมากขึ้น รู้จักคำสอนพระพุทธเจ้า กำลังใจท่านสูงจริงครับ สงเคราะห์ผู้คนทุกอาทิตย์ อย่างผมแค่2วันก็จะตายแล้วครับ ผมรักและเคารพท่านสุดหัวใจจริงๆครับหากไม่มีท่านวันนั้นวันนี้ผมไม่ได้ขนาดนี้ครับ
อาจารย์ท่านที่3 คือ อาจารย์เล็ก เคยมีโอกาสได้คุยกับท่านแต่ไม่เคยฝึกด้วยซักทีครับ เจอท่านเล่าถอดจิตออกมายืนข้างกายเนื้อนี่แหมอยากแหละครับจะลองมั่งแต่ไม่ได้เรื่องซักทีทุกวันนี้ท่านไม่ให้เรียกอาจารย์ ให้เรียกพี่เล็กแทน แหมแต่ทะลึ่งเรียกผมอาจารย์บอล ตลกดีครับใช้มโนมยิทธิดูกันเองถามกันเอง ท่านน่ารักครับ
อาจารย์ท่านที่4 คือ อาจารย์วิ ก่อนหน้านี้เจอผมท่านๆยิ้มอย่างเดียวครับ แต่แทบไม่เคยคุยด้วยเลยครับน้อยมาก จนกระทั่งอ.ชนะและพี่เล็กบอกท่านเก่ง เจโต ผมก็เอาซิครับ ไปที่ไรต้องหาท่านทุกทีจะเอาเทคนิคการฝึกเจโต ถึงว่าไม่ค่อยจะคุยกับผมเกรงงานจะเข้าต้องมาสอนยาวว ทุกวันนี้ก็สมใจอยากผมแหละครับแต่ไม่บอกวิธีปิด อ.วิช่วยด้วยครับเจโตผมดีเกินไปแล้วครับ ขอวิธีปิดหน่อย ไม่ใช่แต่เจโตครับยังได้เทคนิคอีกมากและทุกครั้งที่ผมพบท่านจะชอบไปนั่งใกล้เพื่อเก็บกระแสพระนิพพาน เย็น เบา สบาย แหมหลังๆนี่แค่นึกถึงท่านผมเบา สบายจริงๆครับ ท่านเมตตาสูงครับและผมให้ความเคารพรักด้วยใจจริง
สำหรับท่านสุดท้ายแต่ไม่ใช่ท้ายสุดครับ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ชื่อนี้ได้ยินมานานในหนังสือนะโม แต่ไม่คิดครับว่าทุกวันนี้จะมาได้ไกลขนาดนี้ ขออนุญาติโดยไม่ต้องการคำตอบ ผมขอเรียกหลวงพ่อว่า ท่านพ่อครับ ผมเจอท่านครั้งแรกในวิหาร100เมตรครับ เป็นสังขารท่านและรูปท่าน ทุกวันนี้ไม่แปลกใจแล้วครับว่าทำไมถึงมีความรู้สึกว่ารู้จักท่านมานานมาก ผมพบท่านครั้งแรกในสภาวะมโนมยิทธิ กราบท่านแล้วจุกที่ลำคอครับอยากร้องไห้ ท่านก้มลงกอดผมลูบหัวผมจับผมลุกขึ้นยืนแล้วกอดผม ไม่มีคำไหนในโลกนี้ที่จะดีและมีความหมายไปมากกว่าผมรักท่านพ่อเหลือเกินครับรักมากกว่าคำว่ารักที่ผมเคยใช้กับทุกคนบนโลกใบนี้ ทุกวันนี้เจอท่านข้างบนจะจุกลำคอทุกทีครับอยากจะตายๆไปซะจะไปอยู่กับท่านครับ
ผมเป็นลูกท่านมาหลายพันชาติ เป็นลูกเขย เป็นน้อง เป็นหลาน และบริวารมาหลายแสนชาติครับ ไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงท่าน
เคยมีหลายครั้งทุกข์ใจ ฟังเสียงคำสอนท่านมันจะตรงกับเรื่องที่ผมทุกข์พอดี เหมือนท่านสอนตรงกับที่ผมเป็นพอดี แปลกดีครับ แต่ที่แปลกกว่านี้ก็หลายอย่างครับ หลายคนบอกคุยกับผมเหมือนคุยกับหลวงพ่อ หลายคนบอกผมเล่าเรื่องต่างๆได้สนุกคล้ายหลวงพ่อ หลายคนบอกเห็นผมเหมือนเห็นหลวงพ่อท่านมายืนซ้อน หลายคนบอกกราบผมแล้วสัมผัสได้ว่าหลวงพ่อท่านอยู่ตรงนั้น หลายคนบอกผมจับหัวเขาเหมือนหลวงพ่อท่านจับครับ อันนี้ใครจะคิดยังไงจะว่าผมยังไงก็แล้วแต่นะตามสบายแต่ผมสัมผัสได้แบบนี้จริงๆและหลายท่านที่เจอผมก็จะบอกลักษณะเดียวกัน ผมตอบคำถามบางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนได้ ก็แปลกครับ ไม่อายผมบ้างหรอครับ ผมมุสลิม แต่ดันมาถามผม ผมก็ดันตอบได้ มีเรื่องบางเรื่องครับที่หลายคนถามผมว่าผมมีกรรมอะไรถึงได้เกิดเป็นอิสลามถามกันมากเลยดูซะหมดเรื่องจะได้ไม่ต้องถาม วันนี้มีคำตอบครับ
หากผมไม่ได้เกิดเป็นอิสลามผมจะบวชไม่สึกครับ แต่หากเกิดเป็นอิสลามล้วนท่านพ่อจะเหนื่อยหนัก เลยให้เกิดเป็นลูกครึ่งอิสลามผสมพุทธ ด้วยความเป็นลูกครึ่งจึงไม่สามารถบวชได้ครับ เพื่อจะได้สงเคราะห์ลูกหลานหลวงพ่อ บริวารทั้งหมดทั้งสิ้นที่พึงมีพระนิพพานเป็นชาติสุดท้าย ชี้ทางบอกพวกเค้าและสงเคราะห์กันง่ายกว่าผมบวชเป็นพระ และผมเชื่อมั่นครับว่าสอนคนอื่นรู้จักพระนิพพานได้ ชาตินี้ผมจะให้พ่อผมที่เป็นอิสลามเข้าพระนิพพานชาตินี้เช่นกันครับรวมถึงแม่ผมด้วย ไว้ให้ถึงวาระนั้นก่อนครับ… ลูกรักท่านพ่อเหลือเกินครับ
อาจารย์ท่านสุดท้ายของผม…อาจารย์ใหญ่ครับ
สำหรับอาจารย์ใหญ่นี่เมื่อก่อนปรามาสต่างๆนานาครับ ใครก็สู้อัลเลาะห์ผมไม่ได้เห็นคนกราบไหว้ก็ปรามาสเรียกว่าอะไรปรามาสได้ปรามาสหมด
พระพุทธเจ้า คำนี้เคยคิดครับไม่มีจริงๆงมงาย ทุกวันนี้เชื่อสนิทใจจริงๆครับพบท่านครั้งแรกท่านยิ้มนิดนึงหลายคนบอกท่านแย้มพระโอฐ ผมว่าเรียกยิ้มน้อยจะเข้าใจมากกว่าใครจะว่าบาปก็ว่าไปนะ ผมจะเรียกแบบนี้และท่านไม่ว่า พบท่านครั้งแรกท่านหันมายิ้มน้อยๆครับหน้าท่านเหมือนคนแขก ประมาณแขกปากี ประมาณนั้นครับ แต่ครั้งแรกนี่แวบๆไม่ชัดครั้งที่ชัดที่สุดก็คือวันนั้นนั้งแล้วตัดร่างกายจะไปเต็มกำลังวันนั้นท่านมาครับผมเห็นหน้าท่านชัดที่สุดตั้งแต่ฝึกมาครับ หน้าท่านเป็นมนุษย์อย่างเราๆสวยเรียวคล้ายแขกปากี ครับสวยงามมากมรรัศมีกายสว่างมีสีรุ้งรอบๆกายท่านครับไม่ทราบคนอื่นเห็นเหมือนผมมั้ย หลายครั้งของการฝึกญาน8 ผมก็จะได้พระองค์สงเคราะห์ครับแทบทุกครั้งบางอย่างไม่กล้าถามท่านก็ไปถามท่านพ่อ ท่านพ่อก็ไล่ให้ไปถามพระพุทธเจ้าแทบทุกครั้ง บางครั้งถามพระพุทธเจ้าแล้วก็มาถามท่านพ่อ ท่านพ่อจะบอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสอย่างไรก็ตามนั้นลูก เป็นภาระท่านนะ
ผมมีความรู้สึกว่าพระองค์จะสงเคราะห์ผมมาก ก็แปลกดีครับไม่อยากเล่ามากเกรงคนอ่านบางคนจะลงนรก มีอยู่เหตุการนึงครับเมื่อวันที่4ธ.คที่ผ่านมา พี่เล็กนำของบางอย่างมาใส่มือผมบอกผมว่าท่านๆดูให้หน่อยขอชมบารมีหน่อย ผมก็เอาเลยครับกำหนดดู แหมสั่นแต่สั่นคนละแบบกันที่ผมไปเกือบเต็มกำลัง สะท้านไปทั้งตัวครับรับรู้ถึงพลังมหาศาล ก็ไม่ได้คิดอะไรครับ
ตอนเย็นวันงานบวชไม่รู้อีท่าไหน คุยกับน้องคนนึงมีความรู้สึกว่าต้องให้พลังซะหน่อย ผมกำหนดจิตไปหาพระองค์และขอบารมีพระองค์ทรงสงเคราะห์ครับ ไม่น่าเชื่อครับสั่นสะท้านเหมือนเดิมมีพลังงานบางอย่างวิ่งผ่านตัวกายเนื้อผมออกทางแขนและวิ่งเข้าสู่ใจของคนที่จับมือผม บอกตรงๆนะครับผมว่าผมคงจะเป็นเยอะมีให้พลังอะไรแบบนี้ ก็ไม่ทราบครับว่าคนที่ได้รับไปรู้สึกยังไง ให้ไปหลายคนเหมือนกันครับ ส่วนเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับทริปแรกของผม เกือบจะเป็นทริปสุดท้าย คุณเกิดมานานนี่มาร่วมทริปครับตั้งใจจะให้ได้ก็ไม่ได้มาช่วงกลางคืนวันเสาร์ อ.วิท่านช่วยสงเคราะห์ครับแต่ก็ไปไม่ได้ มาวันอาทิตย์ช่วงเช้าหลังจากกลับจากทำบุญเสร็จ ขณะนั่งรถกลับผมขึ้นไปกราบพระองค์ท่านท่านตรัสว่าคนสุดท้ายที่ฝึกไม่ได้จะไปได้นะ เวลานั้นคิดมากเลยครับ ขนาดอ.วิ ท่านนำยังไปไม่ได้ แล้วผมจะรอดรึ พอกลับมาถึงศูนย์ครับนั่งพักผ่อนกันตามสมควร ผมก็คิดครับพระท่านบอกไม่เคยผิด
ก็ลองดู ผมพาแกไปฝึกส่วนตัว2คนที่ศาลาใหญ่ครับ ไม่มีพิธีรีตรองผมจับมือแกไว้ขอบารมีพระพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์ครับทุกอย่างเกิดขึ้นแบบที่ผมงง คล้ายรู้เองว่าต้องทำอย่างไร
ผมจับมือแกแน่นและขอบารมีพระพุทธเจ้ามีพลังบางอย่างผ่านตัวผมครับ และมาวนอยู่รอบๆตัวลุง ผมให้แกทำใจสบายๆ ขอบารมีพระพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์ไม่นานครับไม่ถึง5นาทีมีรัศมี6ประการของพระพุทธเจ้ามาวนรอบๆตัวลุงครับ ผมขอบารมีพระองค์ทรงยกจิตลุงขึ้นไปยังวิมานพระพุทธเจ้า ไม่น่าเชื่อครับฝึกแทบตายไปไม่ได้ เวลานี้แกไปได้ครับ แต่มืดผมขอบารมีพระท่านขอให้เห็นชัดเจน แหมลุงแก่เห็นชัดเลยครับ แกบอกถูกต้องทุกประการ แกพบพระพุทธเจ้าและไปที่วิมารตัวเอง เวลานี้ผมปล่อยมือแกครับแล้วมาประคองรัศมี6ประการที่วนล้อมรอบตัวลุงไว้ รัศมีนี้มีความเบาเย็นสบายมากครับ ผมประคองไว้อยู่รอบๆกายลุง แกสามารถบอกภายนอกวิมานแกถูกต้องหมดทุกอย่างเลยครับน้ำตาไหลพราก ดีใจสุดๆ เวลานั้นหลวงปู่ปานท่านอยู่หลังผมด้านขวา หลวงพ่อยืนหลังผมด้านซ้าย เวลานั้นเทวดา พรหมมาดูกันมากครับ ผมให้ลุงแกจำอารมณ์พระนิพพานไว้จากนั้นพาแกลงมาครับ ต้องรีบลงจริงๆครับไม่งั้นผมคงต้องตายตรงนั้น เวลานั้นเหมือนทวารจะเปิด เกิดขี้แตกตรงนั้นแหละเวรเลย พอลงมาแหมแกดีใจสุดๆครับพูดไม่หยุด แต่ผมนี่หมดสภาพความเป็นคน จนถึงขณะนี้ผมยังแย่อยู่ วันนี้ต้องไปโรงพยาบาลครับมันหมดแรงแบบไม่มีเหลือกำลัง นี่เป็นเหตุการณ์นึงที่พระท่านสงเคราะห์ ให้ผมได้เห็นปาฏิหารของพระพุทธเจ้าครับ วันนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์เพียงคนเดียวไปถามกันเอาเองครับ ทุกวันนี้ผมไม่มีข้อกังขา สงสัยใดๆเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าครับ
เรื่องราวต่างๆเหล่านี้ก็ขอท่านผู้อ่านใช้วิจารณญานครับ เป็นเรื่องของผมไม่ใช่เรื่องของท่านหากไม่ถูกจริตท่านก็คิดว่าอ่านนิทานครับ วันนี้ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้….สวัสดี