ตอน 42

by admin

ตอน 42

by admin

by admin

สวัสดีทุกท่าน…วันนี้ยังอยู่นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่

หลังจากไปทัวร์ทำบุญจนคอหนัก ไปมาเกือบหมดสารพัดที่ทั้งที่คนทั่วไปรู้จักและที่คนทั่วไปไม่รู้จักแหมคุ้มจริงๆ เมื่อวันจันทร์ก็ไปเชียงรายอีกรอบครับคราวนี้ไป3วันวันแรกก็ไปนอนที่เชียงแสนครับก่อนไปก็แวะทานข้าวริมน้ำเออแปลกแม่น้ำที่นี่ไหลจากล่างขึ้นบนแต่เท่าที่เคยได้ยินมาก็ทราบว่าเป็นเพราะการสาบานร่วมกันของ3กษัตริย์ ก็แปลกดีครับกินไปกินมามีเทวดามายืนข้างๆ แหมบารมีท่านสูงเอาเรื่องขนหัวผมลุกชัน ผมก็ถามน้องๆที่มาด้วยว่าเห็นไรมั้ย

การที่น้องๆพวกนี้ติดตามผมไปแต่ละที่นี่เป็นการดีอย่างเพราะไปเที่ยวที่ไหนก็แล้วแต่ก็ได้ฝึกดูนู้นนี่ไปด้วย เที่ยวไปดูด้วยญาน8ไปสนุกแหละครับเพลิดเพลินมาก มาเข้าเรื่องต่อ ก็ถามครับว่าใครเห็นอะไรบ้าง ทุกคนสัมผัสได้หมดมีอยู่คนนึงเห็นครับผมก็ถามต่อว่าเห็นอะไรยังไงน้องเค้าบอกว่าเห็นผู้ชายแต่งกายคล้ายกษัตริย์โบราณมายืนมองผมนั่นเอาเข้าแล้ว ใช้ได้จริงๆครับเด็กพวกนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆฝึกบ่อยๆมันก็จะคล่อง ที่ว่าคล่องนี่ไม่ต้องตั้งท่าอะไรมากมายกำหมดปุ๊บเห็นภาพปั๊บ ตอบทันที เออ อันนี้ไม่ใช่แค่ทิพจักขุญานนะ เจโตปริยญานก็เริ่มใช้ได้ แหมไม่เสียแรงครับสอนแล้วจำแล้วฝึก ใช้ได้คล่อง น่าปลื้มใจจำไว้นะครับ ญาณเนี้ยต้องฝึกฝนใช้บ่อยๆจะได้คล่องและแม่นยำ เหมือนการหัดขับรถนั่นแหละ เพิ่งขับเป็นแต่เลิกขับมันจะขับเก่งได้ยังไง มันต้องขับบ่อยๆเอาให้คล่องตัวอย่างขับต่างจังหวัดได้ดีพอมากรุงเทพขับไม่เป็นซะงั้น มีแล้วต้องใช้ให้เป็นครับ จะได้ไม่ต้องไปถามใคร และก็ไม่ต้องเป็นขี้ข้าใคร แล้วก็การเข้าพระโสดาบัน สำคัญนะหากเข้าพระโสดาบันได้แล้วนี่ บาปต่างๆ อกุศลกรรมต่างที่เคยทำไว้ไม่มีผลกับเราผมมั่นใจครับ เด็กๆพวกนี้จะทำกันได้ไม่เสียชื่อลูกหลานท่านพ่อ นั่นนอกเรื่องซะอีกแล้ว ไม่ดีๆชมมากเดี๋ยวเหลิง พอกะผมแหมครูบาอาจารย์ชมนี่แหมเคลิ้มติดชมน่ะ เออนะหรือบ้ายอ แหมยังติดบ้ายออยู่น่ะเห็นมั้ย ใครชมไม่ได้อารมณ์ใจฟูพองโต แต่ข้อดีก็มีนะเพราะทำให้มีกำลังใจมากขึ้นส่งผลให้ผมพัฒนามากขึ้น เอ้ามันวกนอกเรื่องอีกและเดี๋ยวนี้ชักยังไง

มาต่อนะ ผมเห็นชายร่างใหญ่แต่งกายคล้ายกษัตริย์โบราณ ผิวคล้ำหน่อย มายืนมองผมครับ เวลานี้อย่าว่าแต่ขนแขนเลยครับขนหัวขนขอลุกตั้งชัน ผมก็ยังไม่สนใจท่านซัดแค็ปหมูน้ำพริกอ่องต่อ ท่านยิ้มครับผมก็ล่อยท่านยิ้มไปเรื่อย ที่ปล่อยท่านไว้อย่างนั้นคือหิวน่ะครับขอท่านกินก่อนค่อยว่ากัน กินไปได้ซักพัก ผมก็กำหนดอาทิสมานกายออกมากราบท่าน ตกใจล่ะครับผมตกใจกายในตัวเอง ปกติแต่งกายคล้ายเทวดา คราวนี้กายในผมออกมาดันแต่กายคล้ายท่านมีที่ครอบผมบนหัวแต่งกายชุดสีดำผมก็ก้มกราบท่านครับ ด้วยไอ้เรานี่ก็เกรงอุปาทานครับ ผมกลัวจริงๆอุปาทานเนี้ย เพราะมันผิดวิสัยเทวดาครับผมว่าปกติท่านไม่ลงมาหาใครนะ เหมือนเหตุการณ์ตอนผมไปสงขลาน่ะ ท่านจตุคามรามเทพนั่นน่ะ แต่อีคราวนี้ดีหน่อยมีพยานมาด้วยช่วยกันดู ผมหันไปบอกให้น้องๆดูว่าเห็นอะไร ทดสอบกันไปในตัวเลยครับ น้องเค้าบอกว่าเห็นผมแต่งกายเหมือนท่านเลยยืนอยู่หน้าท่าน เอ้าเข้านั่นทีนี้แหละทุกคนขนหัวตั้งกันเป็นแถวเพราะเห็นเหมือนกันหมด น้องคนนึงถามผมครับว่าท่านเป็นใครใช่พ่อขุนเม็งรายหรือเปล่า ผมก็กำลังจะหันไปถามท่าน ท่านบอกครับว่าท่านชื่องำเมือง ผมทวนคำท่านอีกครั้งเพราะได้ยินไม่ถนัด หงำเมือง ท่านพูดใหม่ครับทีนี้พูดเต็มๆว่า งำเมือง เอองงและผมไม่รู้จักมาก่อนว่าท่านคือใคร เลยถามพ่อพลขับ เจ้าพลขับนี่ชื่อเจ้าอุย ไอ้เจ้านี่บอกอ๋อ พญางำเมืองที่เป็น3กษัตริย์ร่วมสาบานไง ผมเลยอ๋อๆ แล้วกินต่อ แหมมาตอนหลังนี้ชักคิดและเรานี่ท่าจะบ้าท่านจะมาทำไม ไอ้เจ้าน้องๆที่มาก็อยากจะรู้ผมก็ไม่อยากจะรู้แต่ทนรบเร้าไม่ไหว อีกอย่างเกรงอุปาทานผมเลยกดโทรศัพท์เช็คกันซะหน่อย แหมอาจารย์แม่ท่านหัวเราะชอบใจใหญ่ ผมยังไม่ทันถามท่านแซวไปเที่ยวนานเลยนะ น่านรู้อีก ผมบอกมาเชียงราย ท่านว่าไม่ต้องบอกแล้วขำต่อ เออเล่นกะแกสิน่ะ ผมนี่มุ่งมั่นจริงๆครับวันนึงจะขอได้ซักครึ่งนึงของท่าน แหมท่านรู้แหละครับว่าผมจะถามอะไร ผมถามว่าที่ผมเห็นเนี้ยอุปาทานหรือเปล่า ทีนี้แกขำใหญ่เลยเออผมละงงถามผมกลับอีกว่าเห็นท่านแม่มาหรือเปล่า อ้าวเอาเข้าแล้ว อีแบบนี้แสดงว่าเห็นซะจริงๆไม่อิงอุปาทานแล้ว ว่าแต่ผมไม่เห็นนะท่านแม่น่ะ อาจารย์ท่านว่าไม่กำหนดดูดีๆคงจริงแหละครับผมนี่มันระยำจริงๆ ท่านที่มานี่ไม่ใช่เล่นๆผมดันกินแบบไม่สนใจแหมมันน่าจริงๆ พอมารู้ว่าท่านเป็นเจ้าเมืองพะเยานี่ก็คิดครับแหมเรานี่ใช้ไม่ได้ ไม่หมอบกราบไม่สนใจท่านห่วงแต่กิน วันนั้นผมคุยกะอาจารย์แม่ราวชั่วโมงได้ เอาซะหน่อยนะโดนชมว่ากำลังสมาธิแบบนี้แหละดีลูก รักษาอารมณ์แบบนี้ไว้ แหมเคลิ้มครับ จริงๆอยากจะบอกครับว่าผมทรงอารมณ์ฌานต่อเนื่องมา3วันติด ที่ทรงมา3วันติดนี่มันมีเหตุครับ อดนอนติดเฟซบุคนอนน้อยกลัวง่วงเลยทรงอารมณ์ที่นี้มันก็อิ่มเอิบใจ ไม่ปวดท้องขี้ท้องฉี่ เข้าท่าดีครับทรงมาได้3วันเลยมรอารมณ์จิตที่ดีนี่แหละ คุยกับแกเสร็จไอ้ผมด้วยความที่มั่นใจขึ้นมาไม่อุปทานแน่และเลยถามท่านแหละครับว่าผมนี่เกี่ยวเนื่องอันใดกับท่านมาก่อนท่านถึงเมตตาลงมาเยื่ยมถึงที่แบบนี้ ท่านบอกเธอเป็นลูกเป็นหลานฉันมาหลายชาติ ในชาตินั้นเธอเป็นหลานฉันผมรุกต่อเลยครับผมถามท่านว่าผมชื่ออะไร เอาแล้วท่านเรียกผมว่าผาเมืองนั่นขนลุกแหละครับทีนี้แต่ผมงงๆครับท่านเห็นผมงงๆท่านบอกว่าพ่อเธอชาตินั้นกับท่านรู้จักกัน ผมเลยเรียกท่านว่าลุง เออซับซ้อนดี จากนั้นท่านก็บอกนู้นบอกนี่แล้วท่านก็ไป เล่นเอาผมนอนไม่หลับแหละครับคิดทั้งคืน ว่ามันจะเกี่ยวพันกันได้ยังไงก็งงๆต่อไป ที่นี้คืนแรกที่มาเนี้ยคณะเรานอนรีสอร์ทกัน กลางดึกครับแห่กันมามีคนแต่งกายคล้ายทหารโบราณถือดาบเดินมายืนหน้าประตู ไอ้ผมก็ยังไม่หลับแต่รู้และมีใครมาหา เลยถามน้องๆที่มาว่าเห็นอะไรมั้ย นั่นเห็นกันหมด ผมก็ถามแหละครับให้ถามชื่อพ่อทหารที่มา แหมน้องๆก็ไม่แน่ใจกันแหละครับ พ่อทหารนานนี้บอกว่าท่านชื่อ ท่านขุนศรีจัน. 

ขุนศรีจันนี่ท่านมีความเกี่ยวเนื่องกับผมมาก่อนเวลานี้ท่านเป็นเทวดาอยู่ที่ไหนไม่ทราบไม่ได้ถามท่าน. ก็ตามแบบฉบับผมนั่นแหละครับ. เล่นตัวหน่อย ชวนไปก็ไม่ไปผมไม่ไปกะท่านครับ แหมท่านตื้อเก่งครับต้องการพาผมไปไหนซักที่. สุดท้ายด้วยความที่ดื้อผมไม่ไปครับ. ท่านเล่นมายืนปลายเท้าสงสัยคงเมื่อยกลับไปตอนไหนไม่ทราบ. ตื่นเช้ามาก็ไม่เจอท่านแล้วครับ. จากนั้นผมก็ไปทำบุญตามเรื่องตามราว. ผมสงสัยครับเวลาไปทำบุญทำไมเทวดามารอรับมากันมาก. เวลานี้เข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรครับ. ผมพยายามเล่าเรื่องนี้หลายครั้งเล่าจบก็อัพโหลด แหมเน็ตหลุดทุกครั้งที่อัพโหลด ก็พ่อท่านขุนนั่นแหละท่าทางแกจะเคืองเลยแกล้งให้พิมพ์เสียเยอะแล้วอัพโหลดไม่ได้. เวลานี้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วก็เลยมาพิมพ์ต่อ. แหมเดิมตั้งใจว่าจะไม่เล่าและเพราะขี้เกียจพิมพ์. วันนี้ว่างเป็นปกติเลยเอานิทานมาเล่าต่อ. อ่านเพื่อความเพลิดเพลินนะ.

วันนี้ผมมีความในใจอยากบอกทุกท่านที่มาร่วมออกศึกครับ. 

ปกติแล้วผมเป็นคนที่หลีกหนีความวุ่นวาย เลือกคบเพื่อน ไม่ชอบอยู่กับคนหมู่มาก. ไม่คิดว่าวันนี้ผมจะมาเป็นผู้นำพวกท่านเข้ามาฝึกมโนมยิทธิ. หลายต่อหลายครั้งผมเจอปัญหาจากการเข้ายุ่งกับกรรมของพวกท่าน. บางครั้งมันทำให้ผมเหนื่อยใจ. ท้อใจ. แต่เมื่อผมรู้สึกแบบนั้นทีไร. มองรูปพ่อ. จ้องมองพ่อ. พ่อคือทุกสิ่งของผม. สิ่งที่ผมทำได้ในวันนี้คือ การช่วยพ่อ บอกทางไปบ้าน. พาพวกท่านกลับบ้าน. 

เมื่อวันอาทิตย์ระหว่างที่ผมนั่งคุยกับประธานรุ่นของพวกท่าน เวลานั้นพวกท่านได้มโนมยิทธิกันหมดแล้วพ่อท่านมายืนมองผมท่านมองแล้วยิ้มแค่นั้น ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไว้. พ่อบอกผมว่าพ่อรักลูกพ่อจะพาลูกไปให้หมด แล้วท่านก็ยิ้ม. ผมยกมือขึ้นไหว้ท่านครับ พ่อบอกผมว่า ดีแล้วลูกเรามันเป็นแบบนี้มาตลอด อย่าสงสัยในสิ่งที่ลูกทำได้ พ่อทำแบบนี้ลูกถึงจะหายสงสัย. แล้วท่านก็ยิ้มครับ เวลานี้ผมปล่อยหมดครับมีเท่าไหร่ปล่อยออกมาหมดผมยืนยันครับพ่อรักพวกเราจริงๆ พ่อท่านวัดกำลังใจผม เพราะผมถอดใจเห็นไปไม่ได้กันมาก. ผมคิดครับว่าทุกทริปที่ผ่านมาไปกันได้ทุกคนคงจะฟลุ๊ค. แล้วพ่อก็ทำให้ผมมั่นใจว่าพ่อจะอยู่ข้างผม. ไม่ทิ้งผมไม่ทิ้งบริวารลูกหลานท่านมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทุกทริปไปสัมผัสพระนิพพานได้. ผมรักพ่อครับ. ผมจะทำทุกทริปให้ดีที่สุด. ผมจะทำให้พวกเค้าเห็นว่าพ่อรักพวกเค้า. ผมจะทำให้เค้าแจ้งในคำสอนพระพุทธเจ้า. ผมจะทำให้พวกเค้าเห็นว่าพ่อไม่ทิ้งเรา. ผมจะทำให้เค้าเห็นว่าสิ่งที่พ่อสอนไม่ศูนย์เปล่า. ผมจะนำพวกเรากลับมาสร้างบ้านหลังนี้ให้เสร็จ. ผมขอให้สัจจะสาบานต่อพ่อว่า ลูกจะนำพวกเค้ามาสร้างบ้านหลังสุดท้ายของพวกเรา ไม่ว่าพวกนั้นจะเป็นใครอยู่ที่ไหน หากได้อ่านบทความลูกแล้ว. ถ้ามีความเกี่ยวเนื่องกับพวกเราแล้วไซร์ ขอให้ผู้นั้นอดรนทนมิได้. ต้องกลับมาหาลูกมาให้ลูกฝึกมโนมยิทธิ. มาช่วยลูกสร้างและซ่อม บ้านหลังนี้. ให้บ้านหลังนี้ได้ชำระจิตใจให้เบาบางจากกิเลส. ให้เข้าสู่เขตพระโสดาบัน. ตามที่พ่อได้พร่ำสอน. จากนี้สืบไปเมื่อหน้า หากข้าพเจ้าประสงค์จะใช้แรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์และสติปัญญาของผู้เกี่ยวเนื่องด้วยข้าแล้วไซร์. ขอให้มันผู้นั้นจงไม่รีรอที่จะช่วยตามความประสงค์แห่งเรา

28-02-2012, 12:39 PM  P.210

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top