ตอนที่ 48

by admin

ตอนที่ 48

by admin

by admin

ดาวทำได้

สวัสดีท่านผู้อ่าน วันนี้วันที่ 1 มิถุนายน  2556  ที่ต้องบอกวันที่ก็ไม่ได้เรียนแบบหลวงพ่อนะครับ แต่เวลาผมย้อนกลับมาอ่านก็จะจำได้ว่าช่วงเวลาในขณะนั้นผมเป็นอย่างไร  มีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตผมบ้าง วันนี้มีหลายเรื่องมาเล่าแต่เอาเรื่องเด็ดก่อน  มันจะเด็ดไม่เด็ดกับคนอื่นไม่รู้แต่ผมมีความสุขจริงๆ ที่มีความสุขก็เพราะผมพาลูกน้องคู่บุญไปเห็นพระนิพพานได้แล้ว  ออผมไม่ได้สอนนะแต่พาไปฝึกที่วัดท่าซุง อีกเรื่องที่ทำให้มีความสุขก็คือ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา มีโอกาสได้พบหลวงพี่นัน(เจ้าอาวาสวัดท่าซุง) วันนั้นผมมีงานที่จ.ตาก ขากลับก็มาแวะกราบหลวงพ่อ ผมว่าผมนี่บางทีมันก็เยอะ ที่ว่าเยอะก็เพราะมันผ่านไม่ได้ถ้าผ่านเป็นต้องแวะ ไม่แวะมันกระวนกระวายใจเหมือนผ่านบ้านพ่อแล้วไม่เข้าไปไหว้พ่อ เออมันเยอะเกินหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบ  มีอยู่ครั้งต้องไปยื่นซองที่กำแพงเพชรแล้วต้องไปแม่ฮ่องสอนต่อ ผมก็รีบตื่นแต่เช้าซิ่งสายฟ้าไปกำแพงเพชร  แหมใกล้ๆแยกมโนรมณ์มันอดไม่ได้ เหยียบมาเกือบ200เบรคตัวโก่งแวะขึ้นเรือซะนี่  ถึงวัดก็เอาวะช่างแม่งไปยื่นไม่ทันก็ช่างมัน  เนี้ยมันเป็นอีแบบนี้หลายครั้ง  ขากลับจากเหนือถ้าผ่านแล้ววิหารไม่ปิดเป็นต้องมากราบสังขารท่าน  หลายคนคงคิดว่าไปกราบข้างบนก็ได้ทำไมไม่ไป  ก็ขอบอกให้ทราบไว้ว่าที่ไปกราบสังขารท่านก็เพราะว่า  ท่านเป็นพระอรหันต์  ท่านยังต้องตาย  แล้วผมล่ะไม่เหลือแน่  จะอยู่ให้เกินร้อยปีก็คงยาก  ท่านทำบุญสร้างวัดวาอาราม  วิหาร  โรงเรียน อะไรอีกมากมาย  บุญมากแค่ไหนสุดท้ายหลวงพ่อก็ต้องตาย  แล้วผมล่ะ  ตายแน่ๆตายแน่นอน  ไปกราบแล้วก็สุขใจหลวงพ่อตายแล้ว  วันนึงผมก็ต้องตาย ตายแล้วไปไหนล่ะ  ก็ไปอยู่กับท่านไง  แน่รึว่าจะไปได้  เออนั่นดิไม่รู้  รู้แต่ว่าท่านจะสอนให้คิดแบบนี้  กำหนดจิตไว้แบบนี้ ตอนนี้ไม่รู้ไปได้ไม่ได้แต่ถ้าตายแล้วจะมาบอกดีมั้ย  มากราบหลวงพ่อ ต่อด้วยสังฆทาน  ตามด้วยขอขมาพระรัตนไตร และหยอดเงินทำบุญ เสร็จก็กลับ  เป็นแบบนี้แทบทุกครั้ง

อ้าวมาๆต่อ  ก็เจอหลวงพี่นัน  ผมจะเรียกหลวงพ่อก็แปลกๆเรียกหลวงพี่ก็แปลกๆ ก็เอาเป็นว่าเรียกหลวงพี่ก็แล้วกัน  วันนั้นได้ทำสังฆทานกับท่าน  ไอ้เราก็ได้โอกาสนานๆคนจะน้อยก็เอาวะจะเริ่มคุยกับท่านยังไงดี  อย่าลืมนะผมเป็นมุสลิม  ต้องตั้งหลักทุกครั้งเวลาจะคุยกับพระ ที่ต้องตั้งหลักก็เพราะผมจะล่อราชาศัพย์ตลอด  แปลกกะตัวเองคุยกับพระไม่ว่าใครผมจะพูดเป็นราชาศัพย์  ขืนพูดออกไปนี่ได้ถวายบังคมลาแน่  ท่านคงจะงงไอ้นี่ดูลิเกมากไปแหงๆ  ตั้งสติอยู่พักนึงก็เข้าไปกราบขออนุญาตท่านนำข้อมูล  บทความ คำสอน เสียง ทุกสิ่งอย่างของหลวงพ่อไปลงในเวปผม   ท่านก็บอกว่าให้ทำหนังสือมานะ   ผมก็คุยต่อไปเรื่อยเปื่อย   คุยไปๆมาๆ  ท่านก็ให้มานั่งข้างๆ ทีนี้ยาวเลยครับ ท่านว่าหลวงพ่อท่านเคยบอกว่า   อีก20ปีข้างหน้าลูกหลานบริวารท่านจะลงมาเกิดกันมาก   เธอนี่ก็ถูกดึงมา ดึงหนักเลยนะพลิกเลย เมื่อก่อนเรา(ท่านเรียกแทนตัวเอง)ก็ด่าพระ ไม่ชอบพระเลย ผมก็เสริมเลยว่าเมื่อก่อนแม่ผมได้รับพระมาจากลูกน้องหรือนายให้  ผมนี่แหละโยนทิ้งป่าบ้าง  ลงบ่อบ้าง  ท่านว่าหลวงพ่อสอนเข้าใจง่าย   ยิ่งเป็นคนของท่านยิ่งฟังยิ่งเข้าใจ   เราตามกันมาเพื่อจะไม่เกิดกันอีก ทิ้งร่างกายไม่เอาแล้ว ผมคุยกับท่านราว20นาทีเห็นจะได้รายละเอียดไม่ขอเล่านะ    อยู่ๆท่านบอกไม่ต้องทำหนังสือนะ เราอนุญาตเลย ไม่ต้องทำหนังสือ เราอนุญาตด้วยวาจานะ   ทำได้เลยช่วยกันเผยแพร่คำสอนหลวงพ่อ  พรุ่งนี้มีงานไหว้ครูนะนอนวัดมั้ย  แหมไม่เหลือครับยังไงต้องอยู่แน่ๆ   จากนั้นผมก็กราบลาท่าน  ท่านทิ้งท้ายว่าไว้มาคุยกันใหม่นะ   แหมผมล่ะปีติ ท่านเมตตามากจริงๆครับ แววตา ท่านมองด้วยความเมตตาจนสัมผัสได้เป็นอย่างดี คราวนี้ก็จะได้นำคำสอนต่างๆ รูป เสียง ลงในบ้านเรากันด้วยความสบายใจครับ   จำได้ว่าวันนั้นมีความสุขมาก

กลับมาต่อเรื่องเจ๊ดาวสาวม่ายเลขาคู่บุญผม  เจ็ดาวนี่มันเป็นม่ายก็เพราะผม  อีตอนนั้นได้งานที่หาดใหญ่  สามีมันเป็นช่างแอร์ลูกน้องผม  ไอ้ผมก็ส่งตาแมวแฟนมันไปทำงานที่นู้น  ไปๆมาๆดันไปได้เมียใหม่ทิ้งเจ๊ดาวกะผมซะนี่   เออซวยกูอีกทำครอบครัวเขาแตกแยกแบบไม่เจตนา  ก็เลยเลื่อนขั้นกับเพิ่มเงินเดือนให้อีก  เจ๊ดาวอยู่กับผมมาเป็นสิบปีแล้ว  จากเด็กจบป.6  กดเครื่องคิดเลขไม่เป็น  เดี๋ยวนี้ทำทุกอย่างแทนผมได้  แตกฉานในงานที่ทำ  เรียกว่าเก่ง  ซื่อสัตย์  เงินบาทนึงก็ไม่กระเด็น  ผมเคยส่งไปเก็บตังค์เป็นเงินสดเกือบล้าน  เจ๊แกถือเงินสดขึ้นรถเมล์  ผมโทรเช็คหัวใจหล่นเลยตาตุ่มลงไปใต้ดิน  ด่ามันซะทำไมไม่ขึ้นแท๊กซี่  เจ๊ตอบผู้จัดการถ้าขึ้นรถเมล์ไม่มีใครรู้หรอกว่ามีเงินในกระเป๋า  ถ้าขึ้นแท๊กซี่อันตรายกว่า  นั่นเห็นมั้ยเจ๊แกไม่ธรรมดา  ด่าไม่ออกเลย จริงของมัน    งานหลักของเจ๊ก็คือประสานงานกับลูกค้าแทนผมเพราะผมคุยกับลูกค้าไม่ค่อยได้  คุยๆไปเดี๋ยวงานเข้า  แทนที่จะได้เงินกลับจะเสียค่าปรับแทน  เจ๊เลยกำหนดนโยบายไม่ให้ผมคุยกับลูกค้า  เพราะอะไรรึ  ก็เพราะผมปากไวใจร้อน  ก็รวมความว่า  ผู้จัดการๆพี่ว่าเดี๋ยวพี่คุยเองดีกว่า  เออดีผมคุยทีไรบรรลัยทุกงาน  

เจ๊ดาวนี่จะสนิทกับครอบครัวผมมากเข้านอกออกใน  รู้จักชีวิตผมเป็นอย่างดี  รู้ว่าเมียมีหลายคน  ช่วยโกหกคนนั้น  ปิดบังคนนี้  มีอยู่ทีไม่ได้เตี้ยมกันงานเข้าทั้งผู้จัดการและบริวาร  ทั้งเตารีด  โทรศัพท์  เครื่องปริ๊น  นะบรรลัย  จากคู่บุญเป็นคู่กรรม  เจ๊แกจะรู้จักเมียผมทุกคน  จนบางครั้งแม่กับพ่อต้องถามเจ๊ว่าบอลมันมีแฟนใหม่อีกแล้วหรอ  แน่ะเห็นมั้ยพ่อแม่ผมยังต้องถามเจ๊  เจ๊ดาวนี่อยู่กับผมมาตั้งแต่ยุคร่ำรวยจนถึงยุครวยหนี้  ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน และนั้นเป็นเหตุผลหลักที่ผมต้องเอาเจ๊ไปพระนิพพานในชาตินี้ด้วย  เมื่อหลายปีก่อนผมเคยพาไปฝึกมารอบนึงแต่ตอนนั้นไม่ได้   เจ๊แกประเภททำกรรมกับสัตว์มามาก มากซะจนบางทีฟังเจ๊แกเล่าเราก็เออมันน่าตบกาโหลกจริงๆ ยิงนก ถลกหนังคางคกเล่น ตีแมว กระทืบหมา  ช๊อตปลา โอยเยอะมันเล่าทีนี่แทบจะไม่อยากเชื่อว่ามันทำกับสัตว์มานักต่อนัก  เวลานั่งสมาธิก็จะโดนขวาง ไปทำบุญก็โดนขวาง   เมื่อปีก่อนผมก็งานการไม่ค่อยจะทำเจ๊ก็ว่าง   ก็เริ่มนั่งสมาธิ เข้าวัด ทำบุญ ทำได้ร่วมปี

วันนี้ผมมีกิจที่นครสวรรค์ ก็ไปกะเจ๊ ขับรถไปจะถึงบางปะอิน ก็ถามเจ็ๆ เอาตรายางมาป่าว มันบอกป่าว แหมแทบตบกะโหลกให้หนังหัวกลับ มาทำงานไม่เอาตรายางมา บอกว่านึกว่าผมมี นั่นดูมันนึกเอา ทีหลังก็นึกเอาว่าได้เงินเดือนแล้วก็คงดี เรื่องงานนี่ผมจะดุมาก มันเป็นสันดาน ดุจริงครับทำไม่ได้เรื่องนี่เละ  เล่นซะน้ำตาเล็ด  ไม่แค่เฉพาะเจ๊ดาวนะ แฟน เมีย กิ๊ก โดนหมดถ้าเรื่องงาน หรืออะไรที่เป็นงานเป็นการ

ก็วนกลับมาครับมาเอาตรายางที่รังสิต   ตอนนั้น9โมงกว่าแล้วก็กลัวจะไปวัดไม่ทันวิหารปิด   ผมก็ซัดซะหมดเหยียบหมด แหมซวยละเจอด่านตำรวจจับความเร็ว โดนชัวร์ เลยต้องใช้วิชาบังตากันหน่อย  จับภาพพระจนใสเป็นประกายพฤก แล้วถอยกำลังมา จากนั้นว่า นะบังตา โมบังตา พุทบังตา ธาบังตา ยะบังตา บังตามันด้วยนะโมพุทธายะ ลองดูนะใช้ได้จริง พอถึงด่าน ตำรวจดันมองไปทางอื่นทุกคน ผมใช้หลายครั้งแล้วมันฟลุ๊คทุกครั้ง จากนั้นก็เหยียบต่อ เจ๊ดาวบอกไม่เข็ดๆ จนได้ เจออีกด่านแถวสิงห์บุรี ด่านนี้ไม่รอดชัวร์ ล่อซะเกือบหมดไมล์ เห็นพี่เขายืนเต็มถนนไม่รอดแน่ๆ ผมก็เล่นคาถาบทเดิมท่องไปท่องมาเห็นท่าไม่ดี  เจ๊เตรียมแบงค์ให้ทีกะโดนแน่ 

เอาวะเอาใหม่ท่องให้มันนิ่งๆแถมเป่าด้วยอีตอนเป่านี่เป่าใส่กระจกหน้าส่งเดชไป   เออได้ผลว่ะแต่ละคนหันกันไปคนละทิศคนละทาง  รอดว่ะ เลยแวะกินต้มเลือดแพะกะซี่โครงแพะซะเลย    กินเสร็จบึ่งต่อก็มาไม่ทันครับ   แต่โชคดีว่าเขาเปิดให้ เลยส่งเจ็ดาวเข้าห้องฝึก ส่วนผมก็ไปนั่งฝึกกับหลวงน้าหมอ ท่านเห็นหน้าก็อ้าวหายไปนานเลยมาๆ เรียกผมไปนั่งหน้าสุดเลย ความจริงผมมาแต่ท่านไม่เห็นผม    หนุกละ มโนกะป้องกะแป๊งของผมจะไหวมั้ยเนี้ย  มานั่งนึกๆดูเออศีลผมโอนะยิ่งข้อ3ตอนนี้โคตรบริสุทธิ เออจริง  จะโดนฟัดหลายครั้งรอดมาได้ทุกครั้งข้อ5ก็โอ4ก็โอแต่ข้อ4นี่บางทีก็พูดไม่หมดบางบทก็เล่นคำเช่น ไอ้อ้วนอยู่ไหน อยู่บ้าน(แต่บ้านคนอื่น) ไอ้อ้วนไมไม่รับโทรศัพท์ ไม่ได้ยิน(แต่ปิดเสียงไว้) ไอ้อ้วนอยู่กะใคร คนเดียว(แต่ตอนรับนั่งขี้อยู่) อีแบบนี้ก็คงโอมั้ง ข้อ2โอ ข้อ1โอ   รวมความว่าจะโอไม่โอแต่ตอนนี้นับจากวินาทีนี้โอแน่ วันนี้ผมก็ฝึกสนุกครับตอบตลอด   ท่านชอบให้ตอบ   มาเรื่องเจ๊ดีกว่า   เจ๊แกออกมาผมก็ถามเป็นไงไปได้มั้ย ไปได้ค่ะ แหมผมแทบกระโดดกอด ลูบหัวบอกดีมากๆ เป็นไงล่ะ เจ๊บอกเกาะจีวรหลวงพ่อขึ้นไปหลวงพ่อมารับ  สวยมากเห็นชัดสว่างมากสวยมาก จากนั้นเจ๊แกเล่าไม่หยุด  มันบอกเมื่อก่อนคิดว่าผู้จัดการบ้า  อกหักแล้วเพี้ยนๆ เชื่อแล้วของจริง ตอนนี้บ้าพอกันแล้ว แหมผมละดีใจสุดๆ ดีใจแบบคนบ้า ทำไงล่ะ ก็ไปแวะโรงหล่อสั่งรูปหล่อหลวงพ่อเสียเลย  ได้เดือนมิถุนา เดี๋ยวจะลองไปวัดเจดีย์หลวงดูนะ ถ้าไม่ติดอะไรก็ไว้ไปถวายกัน 

เดี๋ยวมาต่อ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top