ตอนที่ 52

by admin

ตอนที่ 52

by admin

by admin

ครบรอบเว๊ป

สวัสดีท่านผู้อ่าน วันนี้วันที่ 20 สิงหาคม 2556  ก่อนอื่นก็ขออ้างคุณพระรัตนตรัย มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน  และหลวงพ่อฤาษีเป็นที่สุด ขอบารมีพระคุ้มครองท่านผู้อ่านให้ท่านทุกข์น้อยลงและเข้าถึงพระศาสนา ธรรมใดที่พระพุทธองค์ทรงแจ้ง ขอธรรมนั้นแจ้งแก่ใจข้าพพุทธเจ้าและท่านผู้อ่านและขอบารมีแห่งคุณพระธรรมและพระราชพรหมยานคุ้มครองเวปเราให้คงอยู่ ทรงตัว ไร้ศัตรูหมู่มาร  แล้วเป็นศูนย์กลางแห่งการตามลูกหลานบริวารหลวงพ่อกลับบ้านในชาติปัจจุบันนี้เทอญ. 

แหมวันนี้ก็ต้องขอบารมีพระคุ้มเสียหน่อย ทำไมน่ะรึ ก็เพราะเพิ่งจะต่ออายุเวปออกไปเป็นเวลา3ปี  แหมจะต่อไปอีก10ปีก็เกรงจะตายเสียก่อน  อีกทั้งยังกลัวจะซวยโดนต่างชาติแย่งโดเมนไปไม่งั้นอายแย่  ที่แน่ๆเวปเราหาได้มีคนทะเลาะกันไม่  เพราะอะไรรู้มั้ย ก็เพราะแม่งไม่คุยกันซักคน  ความจริงผมว่าดีนะ เพราะอะไร ก็เพราะคุยกันมากคนก็มากความ   ดูสิหลายคนกูก็งง    มันเป็นเพื่อนทางธรรม    หรือเรียกว่าอะไรนะ   กัลยาณมิตรเทือกนี้   อยู่ไปอยู่มามันกัดกันซะงั้น  วันก่อนมีน้องเล่าให้ฟังถึงการขาดความเมตตา ปราณี ขาดความสามัคคีในหมู่คณะ   ลืมคิดไปว่าเราอยู่ในสายเดียวกัน    เคยร่วมรบ เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา    เคยปลอบประโลมยามทุกข์ใจ   เวลานี้หาได้มีความเอื้ออาทรกัน    มันน่าสมเพชครับ   คนพวกนี้ฟังธรรมไปก็เข้าหูหมาทะลุหูลิง มันไม่เข้าหูตัวเอง  คนพวกนี้ทำบุญสร้างพระ ก็หวังแต่ให้ตัวเองได้บุญ ทำเพื่อตัวเอง น้อยคนนักที่จะทำเพื่อพระศาสนา  แปลกแต่จริง คนที่เขาไม่ได้มาปฏิบัติบางคนกินเหล้าเคล้านารี มันยังมีความเป็นมิตรแท้มากกว่าไอ้พวกเข้าวัดทำบุญ  สร้างพระ แต่ตนลืมทำใจตนให้เสมอพระ ปล่อยมานะ เข้าครอบงำ  ทำตนไม่สมกับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกหลานหลวงพ่อ  นี่แค่คนกลุ่มเล็กๆยังหาความสามัคคีกันไม่ได้  นับประสาอะไรกับความสามัคคีของคนในประเทศชาติ  

วันนี้ไม่ได้ว่าใครนะครับเพียงแต่เตือนสติ บางคนไม่กินเหล้าก็ยังขาดสติ  น่าแปลกตรงบางคนปฏิบัติก็ยังหาได้มีสติไม่  ผมเคยบอกหลายๆคนว่ามากคนก็มากความ  เยอะเรื่องหลายสิ่งต่างคนต่างมาจากที่ๆ  ต่างกันมาจากสังคมที่ต่างกัน  แรกๆก็ยังมีความเกรงใจกัน  หยวนๆกันหลังๆชักสนิทกันก็เริ่มละ    ไม่ค่อยจะเกรงใจกัน    ไม่เอื้ออารีเห็นอกเห็นใจกันเหมือนแต่ก่อน    เรื่องนี้ก็ขอยกไว้พูดไปก็เท่านั้นมันเรื่องของคนอื่น    แต่มันได้ยินได้รู้มาก็อดไม่ได้ที่จะบ่น  ก็รวมความว่าเอางี้นะคบคนก็ดูดีๆผิวเผินพอได้ไปทำบุญมันก็ยังจะดีกว่าสนิทกันจนเลิกคบเลิกพูดคุยกันไป  อย่างผมก็ไม่ค่อยจะคบใครวันๆก็คุยแต่กะคนไม่กี่คนผมว่าแค่คุยกะเมียหรือผัวตัวเองก็เหนื่อยแล้วว่ามั้ยยิ่งมีหลายเมียยิ่งเหนื่อยใหญ่  แหมเวลาบ่นทีนี่มึนลูกเดียวดีมั้ยอึนๆมึนๆงงๆเดี๋ยวก็เลิกบ่นไปเอง  

มาเข้าเรื่องเราดีกว่า  ชีวิตโดยปกติของผมก่อนนอนจะไม่พลาดให้ท่านพ่อกล่อมทุกคืน  ผมฟังทุกคืนไม่ว่าเรื่องไหนฟังหมด  กลางวันขับรถก็ฟัง  มีอยู่เรื่องนะท่านพูดเรื่องการฝึกมโนมยิทธิ  อันนี้จงจำกันให้ดี  การที่เราจะสอนหรือฝึกให้คนอื่นนั้น  ผู้ที่เป็นคนแนะนำควรจะได้เจโตปริยญานเสียก่อน  หากครูฝึกยังไม่ได้เจโตนี่จะไปสอนเขาได้ยังไง  สงสารคนมาฝึก เพราะอะไร ก็เพราะถ้าครูฝึกไม่ได้เจโตจะรู้ได้ยังไงว่าผู้มาฝึกติดตรงไหนถึงไปไม่ได้    หรือรู้ได้ยังไงว่าโดนหลอกอยู่     แน่มั้ยมาฝึกยังจะมาหลอกครูฝึก     ไอ้ครูก็เสียท่ามั้ยล่ะ      เป็นครูเขาแต่โดนเขาโกหกใส่เสียหนิ  อายเขาอีกแน่ะ  ก็ถ้าจะฝึกให้คนอื่น เราต้องพร้อมนะ  อย่าใช้กำลังตัวเอง  ขอบารมีพระไว้   ความจริงดีนะสอนไปเถอะแนะคนอื่นไปน่ะดีแล้ว      ให้เขาเข้าถึงพระศาสนา  เกาะพระไว้      ทรงอารมณ์ฌานไว้     พูดถึงเกาะพระเนี้ย  บางทีไปคุยกับสายขึ้นเขาจะหาว่าติดรูป   ยึดติด  หรือจะว่าอะไรก็ช่างเขา  เรายึดพระเป็นที่เกาะ  หลวงพ่อท่านสร้างพระไว้เต็มวัดเลยเห็นมั้ย     แม้เพียงพุทธานุสติก็ทำให้เราไปสวรรค์ได้โดยง่าย  เกาะไว้เถอะ  ผมนี่ไม่เคยห่างพระ  แม้ไม่ได้แขวนแต่ไม่มีวันไหนที่ไม่เห็นพระรูปพระโฉมของพระพุทธเจ้า  เห็นแล้วใจแช่มชื่นเบิกบาน    

พูดถึงแขวนพระแหมวันก่อนไปบ้านสบายใจไปกราบหลวงพี่  ท่านถามเอาพระไปบูชาได้มั้ย  น่ะไม่พลาดเอาสิครับผมก็รีบตอบเลยว่าได้ครับ  ท่านเมตตาให้พระคำข้าวรุ่นแรกมา  ผมนี่ตื้นตันใจในความเมตตาของท่านที่มีต่อผม  การฟังธรรมจากท่านหลายๆครั้งผมว่าฟังแล้วเข้าใจง่าย  ท่านอธิบายได้ละเอียดฟังง่าย  คนอื่นง่ายมั้ยไม่รู้  ก็เลยไปบ่อยหน่อย  ก็อยากจะให้หลายๆท่านหากมีเวลาก็ลองไปดูซักครั้งนะ  รับรองว่าได้อะไรกลับมามากเลยเชียว

เดิมทีผมหมายใจไว้ว่าวันที่ 24 สิงหานี้จะขึ้นไปเชียงใหม่ไปถวายหลวงพ่อ  กับไปงานวัดโขงขาว  แต่ก็ดันมาติดภารกิจที่ จ.ขอนแก่นกับจ.เลย  ก็คงจะยังไม่ได้ไป  แต่คิดว่าไม่พ้นกันยาแน่  ไว้จะส่งข่าวให้ทราบก็แล้วกันนะ  ส่วนใครจะเดินทางไปพร้อมผมขอเช็คก่อนนะครับ. ผมมันประเภทปุบปับไปเลยมักไม่มีแผนการเดินทางไว้เสร็จภารกิจที่จ.เลยจะแจ้งอีกที มาเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นกันบ้างดีกว่า

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาบาสมันมาถามว่าจะได้งานที่ขอนแก่นมั้ยผมดูให้ก็เห็นว่าคู่แข่งมีแถมยังมีคอนเนคชั่นกับเจ้าของโครงการอีก  ทำไงล่ะก็ต้องบนกันล่ะทีนี้  จุดธูปบนเสร็จเสือกปักไปที่สนามหญ้าข้างที่จอดรถ  เป็นไงล่ะ พ่อเห็นล่ะซิ  แค่นั้นยังไม่พอดันมาเจอพระในรถอีก ทีนี้งานเข้าล่ะสิ  วันนั้นบาสโดนเรียกคุย แหมพ่อถามธูปใคร  มันเสือกตอบว่าไม่รู้ พอตอบไม่รู้ก็มีกูคนเดียวละสิ  งานนี้ไม่ค่อยจะกล้าอยู่บ้าน แต่ถ้าอยู่ก็จะอยู่แต่ในห้อง ยังๆถามต่ออีกว่าเดี๋ยวนี้ไปนับถือพระกันแล้วหรอ นั่นเอาเข้าแล้วเจอเจาะประเด็น  งานนี้มันไม่ตอบแต่ก็บอกว่าพระในรถเป็นของพ่อไก่โต้งหุ้นส่วนมัน  กาลนี้ผมว่าเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะให้พ่อได้รู้  ผมเคยปรึกษาพระหลายรูปนะและล่าสุดปรึกษาหลวงพี่สมปอง ท่านแนะว่าให้บอกอ้อมๆและให้ผมทำบุญให้เทวดารักษาพ่อและขอบารมีพระ ให้โน้มน้าวเทวดาก่อน  ก็ไว้ผมจะลองไปคุยกับเทวดาองค์นั้นดู  ใจผมนี่อยากบอกตรงๆแต่ก็เกรงว่าจะหนักเกินรับได้  ก็อาจต้องขอบารมีพระแล้วลองคุยอ้อมๆแบบลัดๆตรงประเด็น เป็นไงก็ค่อยว่าอีกที  ช่วงนี้เลยทำให้สถานการณ์ที่บ้านตึงเครียด

ผมว่านะบางทีมันอาจไม่เลวร้ายมากเท่าไหร่แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอิสลามเข้าแล้วออกไม่ได้ทั้งๆที่ผมก็ไม่เคยเข้านะเพียงแต่มันเข้ามาตั้งแต่เกิด อีตอนนั้นก็พูดไม่ได้ใช่มั้ย มันเลยไม่ได้เถียงว่าไม่เอาๆกูไม่อยากโดนขลิบ แหมใครไม่เคยแม่งไม่รู้ว่ามันสุดปวดร้าวระทมระบมแค่ไหนกะการโดนขลิบ เขาเรียกว่าสุหนัด  พูดเรื่องนี้แหมจำได้ยันทุกวันนี้ ตอนนั้นอยู่ประมาณป.2  จำความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี มี2ตอน ตอนแรกก็อีตอนหมอสุหนัดมันจับฉีดยาที่บอลน้อยขอบอกว่าสุดๆ เจ็บยิ่งกว่ารูดซิปหนีบอีก ผู้ชายคงเข้าใจคิดว่าคงเคยโดนซิปหนีบกันมาบ้าง เสียวสุดก็ตอนโดนตัดสยองสุดก็ตอนเย็บแผล ทุกข์ทรมานสุดก็ตอนยาชาหมดฤทธิ์ แล้วต้องนอนแผ่หราอ้าขาตากพัดลมปะพรมไปได้เบตาดีนกะผงอะไรซักอย่างและแช่ด่างทับทิม  สยองสุดแล้ว ดีนะตอนนั้นยังเด็ก ลองคิดดูดิว่าไอ้ที่โตๆกันแล้วมีเมียแขกนี่มันจะทรมานแค่ไหนหากต้องไปขลิบ แหมคงไปทำงานทำการไม่ได้หลายวัน แล้วตอนเช้านี่ไม่อยากคิดตอนเช้าๆคงปวดร้าวมากมาย เออคงพอเห็นภาพ. ความจริงเราควรมีสิทธิ์เลือกว่าจะศรัทธาหรือไม่ศรัทธาอะไรว่ามั้ย

ไม่ใช่ว่าไม่ดีครับถามว่าดีมั้ยก็ต้องบอกว่าดี ดียังไง ก็ดีตรงที่มีการละหมาด5เวลาเป็นการเจริญสติ ถือศีลอดเป็นการฝึกความอดทนและรับรู้ถึงความยากลำบากและหิวโหยของผู้ยากไร้ ความจริงคงมีมากกว่านี้ แต่ที่แน่ๆวันนี้ศีลผมปกติ  สมาธิผมยังพอใช้ได้ ปัญญาก็พอมีเหลือๆอยู่บ้างบางเวลา  ผมก็ว่าผมพอใจในระดับนึงแล้ว ก็คงทำให้อยู่ร่วมกับพ่อได้ในบ้านเดียวกันมั้ง  นี่บาสมันก็เตรียมทำห้องพระซะแล้ว  เออมันก็คิดได้นะเนี้ย  แต่ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็มองว่าวันนึงพ่อผมในชาติปัจจุบันจะเข้าถึงพระพุทธศาสนาโดยผมนี่แหละจะใช้ทั้งกำลังสติปัญญาและบารมีพระบารมีท่านพ่อเป็นแรงผลักดันให้พระศาสนาเข้าถึงใจพ่อผมได้. พระพุทธศาสนามีหลักเหตุและผล มีแง่คิด คำสอนพระพุทธองค์สามารถพิสูจน์ได้   ตอนนี้ก็ได้น้องผมอีกคนชื่อนิว  ไอ้นี่ก็เริ่มละ นิวเป็นลูกของอาผม พ่อมันไม่มีแม่มันก็ไม่มี มีแต่ป๊ะกับม๊ะ จำได้ว่างานวันพ่อหรือวันแม่มันจะมีปัญหากับการหาพ่อหรือแม่มัน เดี๋ยวนี้มันโตละ มีเมียมีลูกก่อนผมอีก  เก่งจริงๆ ไอ้เจ้านี่มันก็มาทำงานกับบาส  โดนล้างสมองซะแล้ว  เดี๋ยวนี้เริ่มห้อยพระ แต่ยังไม่กราบพระ ที่ห้อยเพราะไอ้นี่กลัวผีแต่ไม่รอดครับ  วันนึงอีกไม่นานจากนี้นิวจะกราบพระแบบสนิทใจ  ผมเคยดูไว้ว่าหากวันใดนิวได้เข้าเหยียบเมืองพิษณุโลกสองแคว  วันนั้นจะเป็นวันที่นิวได้กลับมากราบพระพุทธชินราชอีกครั้งและจะเป็นจุดเรื่มต้นในการเปิดใจยอมรับคำสอนของพระพุทธเจ้า  ทุกวันนี้นิวมีความเคารพในหลวงปู่ปาน  แหมผมว่านะนี่ถ้าญาติๆรู้ต้องกล่าวโทษผมเป็นแน่ที่ทำให้น้องๆหันมาไหว้พระกัน. ไอ้เราก็พี่ใหญ่สุดในบรรดาโคตรเหง้าเสียด้วย  แต่มันก็ตัวใครตัวมัน  เราไปบังคับให้ใครศรัทธาหรือไม่ศรัทธาไม่ได้  มุสลิมจะมองว่าไหว้ทำไม อิฐ หิน ปูน ทราย ทองเหลือง ทองคำ เรซิน ก็ต้องขอบอกว่าพวกผมกราบความดีพระ  ความดีมีอะไร ก็ต้องขอบอกให้เห็นภาพว่า พระพุทธเจ้าท่านสอนให้หลุดจากการเกิด เลิกยึดขันธ์5 ทุกอย่างในขันธ์5ล้วนไม่จริง  เพียงแค่เรื่องเดียวนี้ก็ไม่สามารถตอบแทนสิ่งใดคืนพระองค์ได้แล้ว  มุสลิมยังต้องมาเกิดอีก. ยังมีการพูดถึงโลกหน้า จริงๆพุทธก็มีนะแต่มีโลกเดียวนี่แหละเพียงแต่เวียนเกิดเวียนตาย  

มุสลิมที่มาอ่านจะว่าผมเป็นพวกผิดคำกาลีเมาะหรือคำปฏิญานว่าจะไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์  ก็ว่าผมไปเถอะครับ ไม่ผมไม่รู้สึกรู้สาอะไรเพราะผมเกิดมาไม่เคยปฏิญานอะไรกะใคร. เกิดมาก็เป็นมุสลิม  ตอนนี้บัตรประชาชนผมก็ยังอิสลาม  ผมไม่รู้ว่ามีพระเจ้ามั้ย แต่ผมรู้ว่ามีพระพุทธเจ้า และไม่ได้มีองค์เดียว และผมไปเห็นมาแล้ว  และถ้าไม่เชื่อลองนั่งสมาธิให้ถึงระดับที่สามารถยกจิตหรือถอดจิตไปข้างบนได้พวกท่านจะเข้าใจ  วันนี้ผมบอกได้ว่าพระพุทธเจ้ามีจริง และมีเยอะไม่ได้มีองค์เดียว เทพ เทวดามีจริง และมีเยอะ ผีมีจริง ถ้าไม่เชื่อลองนั่งสมาธิดูนะ จะได้รู้ได้เห็น  แต่ว่ามั้ยบางคนไม่ได้นั่งสมาธิยังเห็นผีได้เพราะอะไร ก็เพราะผีต้องการให้เห็น ไม่ต้องเข้าฌาน

ช่วงนี้มีภารกิจแถวๆขอนแก่นก็มาค้างแรมย่านนี้อยู่หลายคืน มีโอกาสได้พบกับหมอดู เค้าลือว่าชื่อดัง น้องมันชวนไปดูก็ไปกะมัน ไปกันสามเกลอ มีบาส ไก่โต้งและก็ผม แหมไปไหนไปกัน ไปถึงสำนักอาจารย์ท่านนี้  ผมบอกตรงๆว่าไม่ได้คิดอะไรเลย. ไม่มีอคติไม่ได้อะไรแค่ไปกะน้องเพราะมันชวน  อาจารย์ท่านนี้เป็นผู้ชายครับ แกก็บอกว่าเดี๋ยววันนี้แกจะดูแบบเจาะลึกกันไปเลย. ให้คิดคำถามไว้ในใจ  นั่นมั้ยล่ะไอ้เราก็คิดเลยว่าสงสัยให้ถามในใจแล้วจะรู้คำถามเราได้โดยไม่ต้องพูด  สนุกอีกแล้วกู  ผมคิดเลยว่าถ้าอาจารย์เจ๋งจริงต้องรู้ว่าผมคิดอะไร แกก็เริ่มจากดูดวงไก่โต้งก่อนเลย. แล้วต่อด้วยบาส  มีการบอกด้วยนะว่าเนี้ยเทวดามาบอกอย่างนู้นอย่างนี้ อีตอนนี้ผมก็เออเจ๋งว่ะ  คุยกะเทวดาได้ด้วย ไหนดูดิเทวดาองค์ไหน  ไอ้เราก็เข้าฌานเต็มกำลังแล้วถอยมาทรงไว้ที่อุปจารสมาธิ ให้ความเป็นทิพย์เกิด  ไหนวะเทวดาไม่เห็น  แกก็ว่าไปเรื่อยบอกบาสเนี้ยกินเหล้าเที่ยวดื่ม  แกว่าของแกไปเรื่อย จนหมดเรื่องพูด ก็ถามบาสว่าอยากถามอะไร  

น้องผมว่าไงรู้มั้ย  มันบอกไม่มีอะไรจะถามแต่จะบอกว่ามันไม่ดื่นไม่เที่ยวมา5ปีแล้ว. แหมอาจารย์ท่านนี้เก่งว่ะไหลต่อไปเลยว่านี่ไงอานิสงของการถือศีล. กูล่ะงง เมื่อกี้มึงยังบอกว่าดื่มเที่ยวอยู่เลย. ปล่อยเค้าไหลไปเรื่อย  ทีนี้มาถึงตาผมละดิ. แกถามชื่อผมครับแล้วก็บอกว่าเนี้ยผมเป็นน้องของบาสหรอ ให้ดูพี่เป็นตัวอย่าง พี่เขาเข้าทางธรรม นั้นไงเล่นกูซะแล้ว. ผมยิ้มอย่างเดียว จนบาสบอกว่านี่พี่ชายผม  ไอ้ที่ยิ้มคือถูกใจน่ะ กูหน้าเด็กกว่าน้อง แหมถูกใจๆ มาต่อ แกก็บอกต่อว่าเนี้ยจะเอาเรื่องไม่ดีหรือเรื่องดีก่อน  ผมบอกจัดมาได้เลยครับอาจารย์. แหมลุ้นๆแกว่าจิตผมฟุ้งซ่านไม่มีสมาธิ สู้น้องผมไม่ได้จิตนิ่งสมาธิดี มีตัวรู้ นั้นมั้ยล่ะ  เอ้าๆจัดต่อ  แกก็พูดไปเรื่อยอธิบายเรื่องมรรคผล  จิต ตัวรู้ ญาน ผมก็ฟังไปเรื่อย  แกมาตายตอนอธิบายเรื่องฌาน4  จบๆที่พูดมาทั้งหมดพังหมด ยังๆมีวกเข้าเรื่องนิพพาน  พูดว่าไม่อยากเกิดอีก แหมเข้าทางคุยเรื่องนี้คุยกับผมได้ทั้งวัน. แกบอกจะไปนิพพานต้องอาศัยตัวรู้อาการ32 มรรค8 ละ รัก โบภ โกรธ หลง  แหมฟังไปฟังมาชักแปล่งๆ งงๆกะมัน เออเอาวะ สงสัยเห็นผมทำหน้างงๆ. ถามผมว่าสงสัยอะไรถามได้. ผมก็ถามว่าไม่กลับมาเกิดทำยังไง  แกบอกต้องมีตัวรู้ รู้ทัน รู้เท่าทัน ฟังก็งง ผมก็ถามว่ารู้ยังไง  อาจารย์แกก็เอื้อมมือมาหยิกผม แล้วบอกว่าเจ็บมั้ย ผมบอกเจ็บ แกก็ว่านี่ไงรู้ว่าเจ็บ เรารู้ใช่มั้ย อ้าวมึงหยิกกูหนิ  ทีนี้กูงงใหญ่  แกใส่ต่อเลยครับว่าพอรู้แล้วว่ามันเจ็บ ตอนนี้หายเจ็บแล้ว เห็นมั้ย กฏไตรลักษณ์ เกิด ตั้งอยู่ ดับไป แหมเอาไปเอามาชักไปกันใหญ่ 

ผมก็ถามต่อว่าแล้วต้องทำยังไงล่ะครับถ้าไม่อยากเกิด. แกก็ถามผมว่าอยากไปนิพพานมั้ย ผมตอบว่าอยาก แกก็ว่านี่ไงกิเลส  ดูใจตัวเองซิว่าเห็นมั้ยว่าอยากมีสภาพอย่างไร. ผมตอบว่าไม่เห็น. ป้าดๆๆนั่นไงตัวรู้  อีตอนนี้ผมชักเมากะมันงั้นชกหน้าแม่งทีนึงแล้วลองถามมันบ้างว่าตัวรู้มึงเป็นไงมั่งเจ็บมั้ย แป๊บนะเดี๋ยวตัวรู้มึกก็จะดับไปในเหตุแห่งทุกข์. กูชักจะงงกะคำสอนมันละ  ผมยังๆไม่จบถามต่อว่าแล้วจะละ รัก โลภ โกรธ หลงได้ยังไง. แกตอบว่าก็ใช้ตัวรู้ไง พอรู้ว่ารักเราก็ละ รู้ว่าโลภเราก็ละ ผมจี้ต่อว่าจะละยังไง แกบอกก็ละไงไม่ต้องสนใจ ใช้สมาธิจิตละ ก็จะเป็นพระอรหันต์  พอตายแล้วเป็นพระธาตุ เพราะละร่างกาย ผมว่าไม่ไหวละชักแย่เพราะแกล่อซะเกือบ3ชั่วโมง  

รวมความว่าไม่ได้เรื่องได้ราวสุดท้ายผมบอก อาจารย์ครับ ทำใจสบายๆเปิดใจให้กว้าง แกมองหน้าผมว่ะ แต่ก็ทำตาม ก่อนหน้านี้ผมส่องแกซะหมด  แล้วผมก็เริ่มอธิบายเรื่องสมาธิให้แกฟัง แหมใจแกไม่ดีแล้วครับแกใจเต้นแรง อารมณ์ไม่พอใจเกิด  แต่สีหน้ายังนิ่งอยู่  เออเจโตผมยังใช้ได้ดีอยู่ รู้ละว่าแกไม่พอใจ เดิมทีจะไม่พูดแต่ถ้าไม่พูดแกก็จะพูดส่งเดชผิดๆแบบนี้ไปอีกนาน คนฟังนี่ก็ฟังไปแบบไม่รู้เรื่อง อธิบายไปๆมาๆแกก็บอกว่าผมอ่านพระไตรปิฏกมากไปแล้วมันไม่ใช่อ่านตำราแล้วเอามาพูด. นั้นมั้ยเริ่มมีอารมณ์ แกชักอารมณ์ขึ้น ผมเลยใส่เบรคให้แกครับ  บอกแกว่าอาจารย์ครับพระไตรปิฏกผมไม่เคยอ่านครับ. ผมเป็นมุสลิมครับ เท่านั้นแหละเงียบกริป  บาสเสริมต่อว่าผมเป็นอิสลามครับ. แกไหลต่ออีกแน่ะบอกว่าเนี้ยเคยไปคุยกับอัลเลาะห์กับพระเยซู. เออเอากูไปดีกว่าชักไปกันใหญ่  ก่อนกลับแกบอกไว้วันหลังเรามาสนธนาธรรมกันดูซิว่าใครต้องกราบใคร แน่ะท้าดวลอีกเออไปกันใหญ่  ผมเลยชิงกราบแกก่อนเลย

ผมว่าครั้งนี้ผมควบคุมอารมณ์ได้ดีไม่มีอาการหงุดหงิด. ไม่โมโห  มีอารมณ์ใจเรียบเฉยเป็นปกติ  กับการคุยกับคนประเภทที่มีทิฐิ มานะสูงๆ  เหนื่อยใจนี่ก็ไปรู้ว่าจะมีคนเข้าไปงงแบบผมอีกกี่คน  เพราะน้องผมกับไก่โต้งไม่รู้เรื่องเลยครับฟังอย่างเดียว แบบนี้แย่หน่อย มันเหมือนการเอาคนไม่รู้มาเล่าเรื่องที่ตัวเองก็ไม่รู้  อันนี้ไม่ไหวจริงๆ พูดส่งเดชไปเรื่อยเปื่อย อันนี้มาเล่าให้อ่านกันเพื่อให้เรามีสติเวลาไปรับฟังหรือมีคนมาเล่าหรือมาสอนอะไรสำคัญที่สุดคือ เราควรเป็นผู้ฟังที่ดี ให้เขาพูดมาให้หมดแล้วเราค่อยพูด  ฟังแล้วก็คิดถึงหลักเหตุผล  ผมได้ข้อคิดอย่างหนึ่งซึ่งค้ดว่านำมาใช้ได้คือ เวลาเราจะฝึกฝนอะไรให้เราเอาชีวิตเข้าแลกเอาให้ถึงที่สุดก่อน ไม่ใช่จับฉ่ายสักแต่ว่าฝึกไปเรื่อยหลายๆอย่างพร้อมๆกันมันก็ไม่ได้เรื่องซักอย่างเหมือนคนที่ผมเล่าให้อ่านครับ. วันนี้ก็ขอจบเรื่องเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้…สวัสดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top