ตอนที่ 64

by admin

ตอนที่ 64

by admin

by admin

เข้าพรรษา

สวัสดีท่านผู้อ่านวันนี้วันที่ 14 กรกฎาคม 2557 เวลา 00.05น. ช่วงนี้ก็ตรงกับเข้าพรรษาผมก็เดินทางจากนครพิงค์มายังวัดท่าซุงโดยมาร่วมงานที่วัดกับงานบวงสรวงที่บ้านสบายใจ  ผมลงจากเชียงใหม่มาตั้งแต่วันที่11 โดยเดินทางมากับพี่นันและพี่เปิ้ลสหายพี่นันแกร่วมติดรถมาด้วย  มาถึงอุทัยก็ร่วมงานหลวงพี่บ้านสบายใจก่อนเลย  งานบุญในครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่สำคัญกับผมอย่างยิ่งเพราะครั้งนี้แม่ผมเดินทางมาร่วมงานด้วย  จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงล่ะก็แม่อุตส่าหยุดถือศีลอดมาไหว้พระทำบุญกับผมเพราะช่วงนี้ก็เป็นเดือนที่มุสลิมต้องถือศีลอด ผมนี่ไม่ต้องพูดถึงไปเชียงใหม่แล้วอยู่ยาว3อาทิตย์กินแต่หมูสามชั้นมองไม่เห็นเดือนซักกะวันที่จะได้เริ่มถือศีล  นี่กลับบ้านไปก็คงต้องถือศีลอดกันซะหน่อย เอ้ามาว่ากันต่อ

แม่ผมเดินทางมากับพี่ปิ๋ม ป้าณี ป้าแดงและน้องเกรซลูกสาวพี่ปิ๋ม ไม่แน่ใจว่าพี่ปิ๋มไปโน้มน้าวยังไงแม่ผมก็ยอมมาได้ ส่วนป้าณีกับป้าแดงนี่ก็เป็นพี่สาวแท้ๆของแม่ผมเอง รวมความว่าแม่และพี่ๆมาร่วมบุญกับผมที่วัดท่าซุง  จะว่าไปก็ขอย้อนเล่าให้อ่านสักนิดถึงความเป็นมาของการเข้ามาทำบุญของแม่และป้าๆ ย้อนไปหลายเดือนก่อนก็ซักปีที่แล้ว พี่ปิ๋มแกทุกข์ใจเรื่องครอบครัวก็มาปรึกษาพูดคุยกับผม เออนะปรึกษาเรื่องสามีมีกิ๊กนี่กูจะปลอบยังไงดีล่ะ ก็ปลอบไปตามประสาเรื่อยเปื่อย ไปๆมาๆอียังไงก็ไม่ทราบก็กลายมาเป็นการดึงแกมาปฏิบัติกรรมฐานเสียเลย เท่าที่จำได้ก็หลายวาระที่แกไปฝึกกรรมฐานที่สายลม  เอาเป็นวีาผมไม่ได้สอนแกแต่แนะแกให้ไปฝึกเองแกก็ไปจนฝึกได้  พอแกได้มโนมยิทธิแล้วทีนี้ก็เริ่มเป็นพวกบ้าๆบอๆพอคุยกันรู้เรื่องบ้างละก็มาเข้าคณะคนบ้าๆบอๆโดยมีผมเป็นเจ้าคณะ  มีงานบุญที่ไหนก็ทำไม่ขาด  จนกระทั่งได้มาร่วมทริปกับผมที่ไตรตรึงษ์  นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมฝึกมโนมยิทธิให้แก  

หลังจากนั้นแกก็พยายามจะดึงคนใกล้ตัวมาเข้าวัดทำบุญทะกรรมฐานแต่ก็นะบางทีอะไรที่เกี่ยวกับคนใกล้ตัวมักเป็นเรื่องยากเสมอ  ทั้งสามี แม่ น้องและพ่อก็ต่างห่างไกลคำว่าไตรสรณคมน์  ก็เห็นจะมีเพีงลูกสาวที่พอจะชอบการทำบุญเป็นพิเศษแต่ด้วยวัยเพียงสามขวบก็ถือว่าโชคดีมากที่ชวนไปวัดทีไรไม่พลาดและไม่ปฏิเสธทุกครั้ง   มีอยู่หลายครั้งที่แกมักชวนป้าณี่ไปทำบุญแต่ก็นะบางทีคนไม่ทุกข์ก็ไม่เห็นธรรม  จนกระทั่งพ่อของพี่ปิ๋มป่วยจะต้องเข้าโรงพยาบาล  ครั้งนี้ลุงผมนี่อาการหนัก ทั้งบ้านต่างกังวลไม่สบายใจกับการป่วยของลุงปาน  คืนนั้นพี่ปิ๋มโทรปรึกษาผมว่าจะเป็นยังไงจะรอดมั้ย  วันนั้นผมแนะนำวิธีการไปให้เพื่อจะได้ทุเลาเบาบางลง  ทั้งป้าณีและพี่ปิ๋มก็ทำตามที่ผมแนะนำแล้วมีผลดีมากจนลุงปานออกจากโรงพยาบาล  ก็เลยทำให้ป้าณีเริ่มให้ความสนใจกับการทำบุญเพิ่มมากขึ้นหลังๆพี่ปิ๋มแกชวนไปทำบุญไหนก็ฝากเงินบ้างบางทีก็ไปบ้างจนมาครั้งนี้แหละมายันวัดท่าซุง  มากันทั้งสามพี่น้องรวมแม่ผม

ก็ต้องขอบอกว่าผมจะวางเฉยกับการชวนคนในบัานไปทำบุญหากชวนครั้งแรกแล้วไม่ไปก็ตามสบายไม่มีการชวนอีก  ครั้งนี้ผมก็ไม่ได้ชวนแม่มาแต่เป็นพี่ปิ๋มที่ชวนมา  ก็ยังดีครับวันนี้ทำบุญวันหน้าทำกรรมฐาน  ยังไงเสียก็ได้เริ่มต้นแลัวทั้งบ้านผมเข้ามาในทางที่เป็นของจริงแล้วก็คงเหลือแต่พ่อนี่แหละไว้ค่อยว่ากันต่อไป  สำหรับงานบุญครั้งนี้คณะผมก็มากันหลายท่านมารวมตัวกันไปไหนไปกัน  ทั้งบ้านสบายใจ ทั้งวัดวิ่งรอกเดินสายไปจนครบ. นานๆจะได้พบกับพี่น้องที่มาจากต่างแดนก็มีเรื่องคุยกันสนุกสนานเฮฮากันจนคนอื่นเห็นก็คงแปลกใจว่าพวกนี้มันขำอะไรกันนักหนา  มีแต่เสียงหัวเราะตลอด เออบางทีก็เหนื่อยกะการขำ  ทุกท่านหน้าตาแจ่มใสมีความสุขเพลิดเพลินกับการทำบุญ  วันแรกผมนี่ไม่ได้นอนก็ไปงานหลวงพี่บ้านสบายใจก่อน  วันนี้ก็มีบวงสรวงกับหล่อพระ  สำหรับครั้งนี้หลวงพี่ท่านดูร่างกายอ่อนเพลีย  ท่านดูอ่อนแรงจากอาการป่วย ส่วนผมอ่อนแรงจากอาการง่วง  ผมมาถึงก่อนคณะของแม่ที่มาพร้อมพี่ปิ๋ม  มีคณะหลวงพ่อตามกลับมากันเยอะหลายคน  ผมนี่ก็นะคุ้นหน้าเอคนี้คุ้นๆเหมือนเคยเจอ  ก็มันมาทริปผมจะไม่เคยเจอได้ยังไง  หน้าคนนี่ก็ไม่รู้จักจำเออนะ  ซักพักคณะแม่ผมก็มาถึงแม่ก็ดูงงๆกะผมนะแม่คงคิดเออลูกกูนี่มีแต่คนมาไหว้มากราบแต่ละคนนี่รุ่นกูทั้งนั้นสูงวัยประมาณใกล้หกสิบเยอะสุดนี่น่าจะป้าผมนะ  บรรดาป้าๆก็คงสงสัยว่าหลานนี่เป็นเยอะ  ว่ากันต่อ  วันนี้พบหลวงน้าหมออีกท่านผมก็ไม่พลาดกราบและทำบุญกับท่าน  มาช่วงบ่ายก็ว่างเลยเข้าที่พักกัน  

ที่พักนี่เป็นรีสอร์ทครับคณะผมก็ไปพักกันที่นี่  รอช่วงเย็นจะมาเวียนเทียนกันที่โบสถ์ตอนนี้แหละถึงได้พักหลับไปชั่วครู่ก็ตื่นเพราะแอร์ไม่เย็นเออว่าแต่กูจาเล่าทำไมวะ  เอ้ามาตอนเย็นเลยละกันครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เวียนเทียนที่วัดท่าซุง  รู้สึกชุ่มชื่นใจมากเป็นกรณีพิเศษ  ทุกครั้งที่ผมมาวัดท่าซุงเห็นพี่ๆน้องๆลูกหลานหลวงพ่อมากันมากก็ชื่นใจสิ่งที่หลวงพ่อท่านทำไว้ได้ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์รวมใจลูกหลาน เป็นเหมือนบ้านที่ลูกหลานทุกข์หรือสุขก็กลับมารวมกันทำทุกอย่างเพื่อพระศาสนาและเพื่อพ่อ  อันมีพระกรุณาธิคุณล้นเหลือเต็มไปด้วยความเมตตาตลอดมาหาได้มีผู้ใดเสมอเหมือนท่านอีกแล้ว   นึกถึงท่านทีไรน้ำตาคลอทุกทีไปรักท่านเหลือเกิน  ความรักที่มีให้ท่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลงความเคารพเทิดทูลยังคงเดิม  

เวียนเทียนเสร็จก็ไปกินข้าวกับคณะเชียงใหม่แล้วกลับที่พัก  กลับมาถึงที่พักผมก็เอาของกินไปให้บรรดาญาติๆห้องข้างๆปรากฏว่ามารวมกันอยู่ห้องเดียวกันหมด  สอบถามได้ความว่าน้องเกรซลูกสาวพี่ปิ๋มดันเห็นผีอยู่ในห้อง  บอกแม่ว่าแม่ๆผีๆแล้วชี้ไปที่มุมห้อง ผีๆมดเต็มหัวเลย  นั่นเอาเข้าแล้ว ทั้งแม่ทั้งยายเจ้าเกรซมานั่งจุมปุ๊กอยู่ห้องแม่ผมเออดีซวยกูอีกต้องไปดูว่ามีผีจริงมั้ย  แหมเด็กมันก็บอกอยู่ว่าผีๆก็หนีกันมาหมดยังให้กูไปดูอีก  เออแอบกลัวนิดๆเห็นว่ามดเต็มหัวกูชักไม่มั่นใจละปกติเจอแต่ผีคนนี่ผีมดด้วยซวยละกู  ผมก็พกมีดหมอหลวงพ่อไปด้วยกันผีหลอก  พอเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้นก็ขนหัวลุกเออชัวร์ละมีผีแน่  ผมเดินไปตรงเตียงแล้วนั่งลงเห็นผู้หญิงอายุราว25ปีน่าจะได้นั่งพับเพียบก้มหน้าอยู่ผมเธอยาวประมาณบ่ามีมดคล้อยมดตะนอยอยู่เต็มหัว  พอผมนั่งลงเธอก้มกราบผม  เออมามุกไหนล่ะเนี้ย  ผมเก็บมีดหมอใส่กระเป๋าแล้วมองเธอด้วยความสงสาร  การแต่งกายคล้ายคนสมัยเก่าเสื้อสีขาวแบบมีเชือกผูกข้างหน้า  เก่าและขาดบ้าง  ผ้าถุงสีออกเข็มๆเก่าและเลอะเทอะเหมือนรอยดินไม่มีรองเท้า  ผมก็ไม่พูดมากถามมาก  บอกเธอว่าก่อนหน้านี้ฉันทำบุญสร้างพระมาขอเธอร่วมยินดีในบุญที่ฉันทำนะ  เธอก้มลงกราบโมทนา พอเธอโมทนาจบเสื้อผ้าเธอใหม่ขึ้นทันทีครับมดบนหัวหายไป  ผมก็ว่าต่อ วันนี้ฉันได้ไปทำสังฆทานที่วัดท่าซุงมานะฉันมีความสุขใจอิ่มบุญเพียงใด  ขอเธอจงสุขใจอิ่มบุญเสมือนเธอได้ทำเองนะ  เธอก็กราบอีกรอบครับ ครั้งนี้ร่างกายเธอสว่างขึ้นผิวพรรณผ่องใสขึ้นร่างกายดูอิ่มเอิบ  ผมก็ว่าต่อ วันนี้ฉันได้กราบและทำบุญกับพระอริยเจ้าขอเธอจงโมทนา  เธอกราบอีกครั้งครับคราวนี้มีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยทีเดียว  แต่ก็ยังอยู่ในชุดเดิมมีแสงรอบๆกายเป็นสีขาวนวล  เธอเงยหน้ามองผม นั่นเอาละกูชักหลอนละถ้ามันมองแล้วแยกเขี้ยวโดนกัดคอกูนี่จะทำไงดี  

เนี้ยมันเป็นซะอย่างนี้นะ  ผมก็กะไม่มองหน้าแต่ก็นะปกติผีมักก้มหน้าก็ลองมองดู  ตาเธอสวยมากครับตาเรียวสวยขนตายาวจมูกนิดปากหน่อย  เธอยิ้มแล้วบอกผมว่าขอบพระคุณท่านมากที่ช่วยเหลือ  ปากเธอไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย  เออผีนี่สวยดีว่ะ  ผมก็บอกเธอว่าไปได้แล้วนะ  ทีนี้ผมก็เดินออกมาหาพี่ปิ๋มบอกแกว่าไหนลองอุ้มลูกจากอีกห้องมาซิ  ดูว่าผีไปรึยัง แกก็ไปอุ้มมาพาน้องเกรซเข้าไป  ก็ถามลูกว่าผีอยู่มั้ยลูก  น้องเกรซบอกผีไม่อยู่แล้วไปแล้ว นี่ขนาดผีไปแล้วนะ  แม่มันยังไม่กล้านอนเลยยังมีการถามลูกอีกว่านอนห้องนี้มั้ยลูก  แหมลูกสาวส่ายหน้างกๆไม่เอาๆ  พอกันทั้งแม่ทั้งลูกปอดแหกกลัวผีที่ไปแล้ว   จบการไล่ผีก็ได้พักซะที

วันรุ่งขึ้นช่วงเช้าก็มีงานบวงสรวงฉลองชัยพระเจ้าพรหมมหาราช  คณะเราก็มากันครบไม่พลาดแหมสุขใจอีกครั้งที่ลูกหลานหลวงพ่อร่วมแห่ร่วมร้องเพลงฉลองชัยกันถ้วนหน้า  ส่วนผมไม่ได้ไปเดินกะเขาหรอกยืนปวดขี้อยู่เลยไม่ได้ไปเดิน  ก็ต้องขอบอกว่างานนี้พระเจ้าพรหมมหาราชท่านเสร็จลงมาจากนิพพาน มีเทวดาติดตามมามากมาย  ท่านยิ้มด้วยความเมตตาเวลานั้นพระอาทิตย์ทรงกลดนานเป็นชั่วโมงเห็นจะได้  สร้างความปีติยินดีกับท่านที่มาร่วมงานต่างถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก  ผมอยู่ร่วมงานได้พักเดียวก็ไปวิหารร้อยเมตรต่อเพราะมีนัดรับลูกแก้วมณีรัตน รุ่นแรก แหมเป็นบุญแท้ที่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง  คุยกับเจ้าของเก่าอยู่พักใหญ่ก็ไปอีกงานครับเป็นงานบวงสรวงถวายระฆังที่วิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์  เสร็จงานถวายก็ไปตะเวนป่าแถวนั้นเป็นการพักหลังจากแบกบุญมาหนัก  ไปถึงก็ได้เรื่องเลยลงจากรถมาไม่ทันไรฝนตกเสียหนิ  

ไอ้เราก็จะกลับก็คิดว่าเออไหนๆมาแล้วจะได้ไม่เสียเที่ยวเอาไงดีล่ะโทรศัพท์ก็จะพังเสีย  ก็ถอดอทิสมานกายขึ้นไปที่วิมานพอใสปิ็งแล้วผมกลับลงมาลอยอยู่บนยอดเขา  พบเทวดาสองท่านยืนรออยู่ท่านยืนยิ้มแฉ่งคล้ายจะทราบว่าผมจะพูดอะไร  แหมดีจริงๆแค่คิดก็รู้แล้วดีไม่ต้องพูดกัน  ผมก็กลับลงมากายเนื้อ เอาเข้าแล้วไงฝนตกหนักกว่าเดิมผมก็เอ้ยังไงกลับขึ้นไปใหม่  ท่านบอกว่าคุณใจเย็นๆผมกำลังจะเคลื่อนให้อีกซักสองนาที  ออสรุปกูใจร้อนเออตลกดีผมกลับลงมาก็จับเวลาเลย  ตรงเผ่งเลยครับสองนาทีจริงๆฝนหยุดสนิททันที  ก็ไม่พลาดนะบุญตั้งแต่ชาติต้นจนวันนี้ให้ท่านร่วมโมทนา  รวมทั้งเจ้าป่าเจ้าเขาผีสางนางไม้  รุกขเทวดา มาโมทนาให้หมด  เดินเล่นอยู่เป็นชั่วโมงก็กลับ  ขึ้นรถปั๊บฝนตกหนักทันที  แหมก็ต้องขอบคุณเทวดารักษาเขตนั้นมีสององค์  ขอบคุณที่เมตตาสงเคราะห์ให้ผมเดินเสียเหนื่อยไอ้เราก็ไม่ได้ถามท่านว่าไอ้ข้างในนั่นมันสวยมั้ยถ้าไม่สวยจะได้ไม่เข้าไปดู  ก็มาคิดได้ว่าขนาดมาเที่ยวมึงยังขี้เกียจเดินอีก

คุ้มจริงๆครับมาครั้งนี้มีหลายงานทำบุญกันแบบไม่เสียดายเงินมีเท่าไหร่ควักทำหมด  แต่สิ่งนึงที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุดคือแม่และครอบครัวที่เริ่มหันหน้ามาเข้าวัดแม้นเพียงเล็กน้อยสำหรับเงินทำบุญแต่มีค่าที่ยิ่งใหญ่มาก  อีกทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผมมีกำลังใจในการแนะนำทางกลับบ้านให้กับอีกหลายๆท่าน  วันนี้ทราบดีแล้วว่าแม่ศรัทธาและภูมิใจในตัวผม  คนอื่นจะด่าว่าผมยังไงก็ช่างเรื่องของมึง  ส่วนผมยังคงมั่นที่จะสร้างความดีให้มากกว่าความเลว  และหวังไว้ว่าวันหนึ่งพ่อผมจะพบของจริงเสียที  วันนี้ก็ขอจบเรื่องเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้…สวัสดี….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top