ขึ้นปี่ใหม่
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้วันที่ 15 เมษายน 2557 เวลา 24.00 น. ข้าพเจ้าขออ้างคุณสมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ขอบารมีพระรัตนตรัยจงคุ้มครองป้องกันให้ท่านทั้งหลายรอดพ้นจากอุบัติเหตุ มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ มีความสุขสมหวังดังใจปรารถนา ตลอดปีใหม่ไทยนี้ทุกประการเทอญ…
ห่างหายไปเดือนเศษก็ไม่ได้หายลับไปไหนทำงานครับล่องใต้ขึ้นเหนือไปอีสานยันตะวันออกตก เดือนเดียวนี่ขับรถเกือบหมื่นโล บางทีก็มาคิดว่าคนที่เขาทำงานประจำนี่น่าจะสบายกว่าเรา วันๆเปิดคอมออฟฟิตเล่นเพซบุ๊คมั่งแซทนู้นนี่นั่นสิ้นเดือนได้ตังใช้ มันสบายว่ามั้ย แต่พวกนี้บอกเบื่ออยากมีธุรกิจส่วนตัวจะได้มีอิสระ ก็ขอบอกว่าโคตรอิสระจนเกินไป ผมไปต่างจังหวัดจนเบื่อไปแล้วไปอีกซ้ำๆซากมากว่าสิบปี คนที่ไม่เคยไปก็อยากไปคนไปบ่อยก็เบื่อ นี่แหละนะความไม่พอดีขับรถไม่ใช่ว่าสนุกสบาย ทุกข์พอสมควร เดือนนี้มีเรื่องสำคัญจะเล่าให้อ่านแล้วโมทนาบุญร่วมกัน เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมาผมก็ได้ไปร่วมงานถวายวิหารแก้วสมเด็จองค์ปฐม ที่วัดป่าซางงาม จ.ลำพูน คณะเราเมื่อสองปีที่แล้วก็ได้ช่วยกันอุทิศแรงกาย แรงทรัพย์ ร่วมสร้างวิหารแก้วสมเด็จองค์ปฐม ที่สวยสดงดงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย สถานที่นี้มีความสำคัญมากแห่งหนึ่ง ที่สำคัญอีกอย่างคือมีสมเด็จองค์ปฐมปางพระนิพพานประดับเพชรที่ใหญ่และสวยที่สุดอยู่ที่นี่ ก็ขอให้ท่านผู้อ่านร่วมโมทนามหากุศลในครั้งนี้ด้วยครับ
ช่วงนี้เป็นเทศการสงกรานต์ก็เห็นว่าสมัยนี้วัยรุ่นเล่นน้ำสนุกสนานกันมากจนบางทีก็เกินงามเกินประเพณี เห็นแล้วก็คิดว่าเออรึเราแก่แล้วเลยไม่เห็นถึงความสนุก เอรึว่าที่เขาสนุกกันนี่เพราะสาดน้ำใส่สาวๆปะแป้งแถมจับนู้นนี่กันเพลิน จริงๆแล้วตรงนี้น่าคิดนะว่าเรามีประเพณีนี้ไว้เพื่ออะไร เพื่อให้หนุ่มๆมาลวนลามหญิงรึว่าให้หญิงมาเต้นยั่วหนุ่ม อันนี่เท่าที่ผมเห็นนะ แถวบ้านผมมันเป็นแบบนี้แม่คุณเล่นยืนบนรถโยกเอวส่ายสุดฤทธิ์ เห็นแล้วได้แต่สงสารมดลูกเธอ ส่วนผู้ชายนี่เมาปลิ้นกระโดดโป๋เป๋เป็นเปรตโดนน้ำร้อน เออนะว่ากันไปนานๆมีทีปีละครั้ง ว่าแต่พวกเราเหล่านักรบกิเลสล่ะเป็นยังไงกันบ้างได้ไปสรงน้ำพระกันบ้างรึเปล่าหรือว่าไปสรงน้ำสาวๆหนุ่มกันจนลืมพระ บางทีเห็นบ่อยๆลืมพระได้เหมือนกันนะว่ามั้ย
หลายท่านถามกันมามากสำหรับทริปต่อไปซึ่งเดิมผมตั้งใจว่าจะจัดทริปอโยธยาศรีรามเทพนคร ครั้งที่ 2 แต่ติดว่าขี้เกียจก็เลยยังก่อนดีกว่าที่ขี้เกียจเพราะเวลาจะอยู่บ้านยังไม่ค่อยจะมีเร่ร่อนนอนจังหวัดนู้นทีนี้ที เดือนนึงนอนบ้านไม่ถึงห้าวัน ตั้งแต่จบทริปที่แล้วก็มีคนแห่ถามกันมามากหนูโดนของมั้ย หนูมีผีตามรึเปล่า สรุปกูกลายเป็นหมอผีไปซะแล้ว บ้างก็จะมาให้ถอดของ บ้างก็จะให้ไปไล่ผีเออเอากะมัน แต่ละคนก็มีปัญหาแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน คนมันก็แบบนี้ยุ่งวุ่นวายคอยแต่จะพึ่งคนโน้นพาคนนี้ ไอ้เรามันก็ประเภทบ้าเป็นพักๆเกิดคึกขึ้นมาก็ช่วยสุดใจ พอหายคึกก็ขี้เกียจวุ่นวายกะคนอื่นก็เอาเป็นว่าเลิกขี้เกียจค่อยมาว่ากัน
ชีวิตเราทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ลองคิดดูดีๆนะว่ามันไวมาก สั้นมากบางท่านแป๊บๆ60ขวบแล้ว ผมนี่แป๊บๆ18ขวบไวแท้ ก็เรียกว่าวัยขบเผาะกำลังเอาะๆนั่นมั้ย เวลามันผ่านไปทุกวันๆนี่ก็เพิ่งผ่านปีใหม่มาจะครึ่งปีแล้ว ก็อย่าประมาทกันครับ ประเภทที่สวดมนต์ก็ไม่เอากรรมฐานก็ขี้เกียจไอ้ประเภทนี้อย่ามาบอกว่าไม่อยากเกิดอีก อย่ามาพูดว่าต้องการไปนิพพาน มันน่าตบเอาเลือดปากออกเพราะอะไร ก็เพราะสักแต่ว่าพูด พูดส่งเดชส่งลมไปเรื่อยเปะปะโปเป หาได้เอาจริงตามคำไม่ คนประเภทนี้ไม่ไหวพวกนี้ทำหลวงพ่อเหนื่อยเปล่า หลังๆมานี่ผมต้องสู้กับอารมณ์ใจตัวเองมาก เดี๋ยวดีเดี๋ยวบ้าหงุดหงิดง่าย ก็พยายามจะระงับยับยั้งแต่บางทีก็เหลืออด เจอพวกที่มาทริปดื่มสุรายาเมาไอ้เราก็ปรี๊ด มันทำแบบนี้ได้ยังไงเรามาฝึกให้มีสติ คนพวกนี้หาเครื่องทำให้ขาดสติ ผมไม่โทษใครนะ ผมโทษตัวเอง ผมมันเลวที่ไม่สามารถทำให้คนที่มามีกำลังที่จะรักษาศีลข้อที่สำคัญที่สุด บางทีก็คิดว่านี่หรือคนที่บอกว่าการเกิดมันเป็นทุกข์ไม่อยากเกิดอีก อยากตามหลวงพ่อไปนิพพาน มันหาได้เข้าง่ายเพราะเราพูด แต่ต้องทำด้วยขัดเกลาใจเราให้กิเลสเบาลง
คณะเราหลายๆคนก็มุ่งสร้างวัดหล่อพระ แต่ก็ลืมที่จะสร้างใจตนให้เป็นพระ ที่ไหนมีไปหมด อีแบบนี้ก็ไม่ได้ไปหรอกนิพพานน่ะ ก็เข้าใจว่าชอบทำชอบสร้าง พวกท่านติดที่จะทำบุญสร้างนู้นสร้างนี่มาหลายต่อหลายชาติแล้ว แต่อย่าลืมว่าหากเราต้องการเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย มันต้องสร้างใจเราให้เสมอพระ เน้นปฏิบัติให้มาก มองดูตัวเองว่าทุกวันนี้ปฏิบัติกันมั้ย อ้างว่าไม่ว่างบ้างไม่มีเวลาบ้าง อ้างตลอดคือมึงยุ่งขนาดนั้นเลยรึ กูก็ยุ่งแต่เวลากูขี้กูจับลมสามฐาน กูขึ้นไปกราบพระ กูอาบน้ำแต่จิตกูเกาะพระเพราะถ้าไอ้เครื่องทำน้ำอุ่นมันไฟรั่วดูดกูตายอย่างน้อยกูไปสวรรค์ก่อน กูขับรถก็จับลมหายใจ มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ก่อนนอนกูไปกราบพระแล้วจับลม มองสาวสาดน้ำตัวเปียกกูเอาอสุภเข้าจับเออกระดูกดิ้นได้ ฉะนั้นอย่ามาพูดว่าไม่ว่างไม่มีเวลา มันไม่มีใครมาคอยเตือนเราได้ทุกวันเราต้องเตือนตัวเราเอง
ไม่รักหลวงพ่อรึ ไม่สงสารท่านรึ ท่านทำทุกอย่างทุกทางเพื่อให้เราไม่ต้องมาเกิด ท่านทนทรมานร่างกายท่านสั่งสอนพวกเรา ผมไปกราบพระมาก็มากบางท่านนี่กว่าจะได้กราบลำบากลำบนกราบเสร็จก็ต้องลุกออกไปเลยไม่ได้คุยไม่ได้สนทนา บางรูปป่วยเราไปตั้งไกลก็ไม่ได้พบ บางรูปก็พบยากเหลือเกิน แต่หลวงพ่อเราแม้ท่านป่วยสาหัสขนาดไหนท่านยังเมตตาออกมารับแขกมาให้ลูกให้หลานกราบไหว้พูดคุยสนทนา เพราะอะไรก็เพราะท่านรักษากำลังใจพวกเรา ท่านบอกว่าบางคนมาก็ไกลค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็มากหากท่านไม่ออกมาลูกหลานก็เสียกำลังใจ ดูเอาเถิดครับนี่ท่านพ่อเรา ลูกๆหลานๆทุกๆท่านผมรู้ว่าลึกๆแล้วท่านใฝ่ดีกันทั้งนั้นแต่คนเรามันจะเอาดีได้มันต้องลงมือทำไม่ใช่ใช้ปากพูด ตัวผู้เขียนก็ยังเลวอยู่มาก ก็ต้องลงมือทำเช่นกัน เวลามันลดลงไปทุกวัน เอาอย่างนี้นะให้พวกท่านนับแต่นี้ไปความเลวที่เคยทำมาไม่ต้องไปคิดให้คิดว่าจากวินาทีนี้ไปเราจะรักษาศีลให้ครบ เราจะยอมตายเพื่อไม่ให้ศีลขาด เราจะกราบพระตอนเช้าและก่อนเข้านอนทุกวัน และเราจะนึกถึงความตายทุกวัน มันไม่มีอะไรยากถ้าท่านทำจริงจังครับ วันนี้ก็ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ สวัสดี…