ตอนที่ 1 หมายเรียก

by admin

ตอนที่ 1 หมายเรียก

by admin

by admin
ตอนที่ 1 หมายเรียก

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าสิ่งที่ผมจะเล่าให้อ่านนั้นเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่เกิดกับผมและเป็นเรื่องแปลกหรือจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ท่านผู้อ่านจงอย่าเชื่อจนกว่าจะได้ปฏิบัติและขอเป็นแรงใจให้ผู้ปฎิบัติใหม่ทุกท่านมีกำลังใจ ส่วนตัวผมเองก็ยังงูๆ ปลาๆ อยู่มากและยังมุ่งมั่นฝึกฝนตามคำสอนหลวงพ่อต่อไป …

 …ผมเป็นมุสลิมมาตั้งแต่เกิด โดยฝ่ายพ่อเป็นมุสลิม แม่เป็นพุทธโดยกำเนิด พอมีผมก็เลยต้องเป็นมุสลิมไปโดยปริยาย ก็เลยไม่ค่อยมีความรู้ทางพุทธศาสนา ช่วงวัยเด็กระว่างเรียนชั้นประถมก็เริ่มเข้ามาสัมผัสพระพุทธศาสนาแบบไม่ตั้งใจและไม่สนใจเท่าไหร่ ทุกวันศุกร์เค้าจะมีประชุมก่อนเลิกเรียนทุกศุกร์ และมีการนำสวดมนต์ไหว้พระผมก็ได้แต่นั่งนิ่งฟังเค้าสวดกันไปตั้งแต่ ป.1 ถึง ป.6 ฟังทุกศุกร์ก็เลยสวดได้ซะงั้น

หลังจากนั้นพอเรียนจบ ป.ตรี ก็เริ่มหัดทำการค้าเริ่มค้าขายช่วงนั้นจำได้ว่าได้ยินเค้าพูดกันเรื่อง กุมารทองช่วยค้าขาย ก็สนใจเริ่มเสาะหา ซึ่งจริงๆแล้วก็ผิดต่อหลักศาสนา ตอนนั้นคิดว่าเอารวยไว้ก่อน จากนั้นเริ่มหาหนังสือพระพวกเครื่องรางมาอ่านโดยแอบไม่ให้ใครรู้ จนมาเจอหนังสือ”นะโม” หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือพระเล่มแรกที่ทำให้ผมได้รู้จักชื่อของ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ”

จะมีหน้านึงที่มีการตอบปัญหาธรรมมะของหลวงพ่อซึ่งตอนนั้นอ่านก็รู้สึกชอบใจ และก็อดคิดไม่ได้ว่าตกลงท่านเป็นพระหรือเป็นฤาษีหรือเป็นทั้งพระและฤาษีแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจมาก ทุกครั้งที่ซื้อนะโมต้องอ่านหน้านี้ทุกครั้ง (ช่วงนั้นเป็นช่วงปี47)

 …. จนกระทั้งมาถึงปลายปีที่แล้วช่วงเดือนตุลาคมเวลานั้นผมประมูลงานราชการแห่งนึงแล้วเงินออกช้ามาก ร่วมๆ4เดือน เงินหลักล้านของ ร.พ. แห่งหนึ่งในกรุงเทพ เล่นซะผมเครียดจัดไม่มีทางออกกับปัญหาตัวเอง มีอยู่วันนึงได้เข้าไปอ่านหนังสือฟรีในห้างแถวบ้านก็ไปเจอหนังสือของแม่ชีท่านหนึ่งบอกว่า “ถ้าอยากมีการเงินที่ไหลลื่นไม่ติดขัดให้ไปกราบหลวงพ่อเงินไหลมาเทมาที่วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี” วันรุ่งขึ้นผมก็มาอุทัยโดยมาแวะทำธุระที่ชัยนาทก่อนแล้วก็มาถึงวัดประมาณบ่าย3เศษ ก็ขับรถรอบวัดซะทั่วจนมาเจอหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมกราบพระพุทธรูปและขอให้ท่านช่วยให้เงินที่ผมรอออกไวๆ

ใจนึงหวังให้พระท่านช่วยแต่อีกใจคิดว่าเราถ้าจะบาปหนักผิดต่อหลักอิสลามทีไม่ให้เคารพบูชารุปปั้นต่างๆ ตอนนั้นก็ช่างว่ะไม่มีใครรู้(หมายถึงพ่อ) เงินไม่ออกเดือดร้อนกว่าเพราะเวลานั้นแทบไม่มีเงินจะกินแล้ว

พอไหว้พระเสร็จก็กลับ(ด้วยความโง่ของผมมาวัดก็ไหว้แค่ตรงนั้นไม่ไปไหว้ตรงอื่น) ระหว่างขับรถออกจากวัดก็ขับผ่านวิหาร100เมตร ตอนนี้แหละครับผมเกิดร้องไห้สะอึกสะอื้นโดยไม่รู้สาเหตุ เรียกว่าร้องแบบมีคนที่รักที่สุดในชีวิตตายผมยังไม่ร้องขนาดนี้ ตอนนี้ งงครับ ตัวเราร้องไห้อยู่ แต่ใจคิด ร้องทำไมวะ งงจริงๆครับ พอขับรถเลยวิหาร100เมตรมา ก็หยุดร้องและขับรถกลับด้วยความ งง สับสน หรือว่าเรารู้สึกผิดต่อศาสนาคิดไปคิดมา หาคำตอบไม่ได้จริงๆครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top