มโนมยิทธิเต็มกำลังของผม
สวัสดีพี่น้องชาวอโยธยาศรีรามเทพนครทุกท่าน วันนี้วันดี 9/12/2555 เออนะมันต้องวันดีค่อยมาเล่า ความจริงขี้เกียจเสียมากกว่า เรื่องเล่ามันมีมากแต่เล่าไปก็เท่านั้น นานๆเล่าทีก็ดีเหมือนกัน มาเข้าเรื่องก็เลย เมื่อวันที่ 8ธันวาคม เป็นอีกครั้งที่ผมไปฝึกมโนมยิทธิ จริงๆมันแปลกว่ามั้ยเพราะปกติสอนชาวบ้านแต่วันนี้มาฝึกเอง ที่มาฝึกก็เพราะผมเคยมาฝึกเมื่อปลายปี53 แต่ตอนนั้นไม่ได้เรื่องได้ราว มีแต่เสียงคนแหกปากร้องโหยหวน จบกัน มันก็ไม่ได้ละซิ
ส่วนปีที่แล้วน้ำท่วมผมเลยไม่ได้มา กาลนี้ผมไปล่วงหน้าหนึ่งวัน ไปปรับตัวปรับใจ ฟังพ่อเทศน์ตลอดทั้งคืน จับลม ไอ้ลมนี่จะจับคงไม่ได้เดี๋ยวคนไม่รู้จะงง จับลมก็หมายถึงจับลมหายใจ ว่าเวลานี้หายใจเข้าหรือหายใจออก รวมความว่าคืนวันก่อนฝึกนอนซะเกือบตีหนึ่ง ตื่นมา 7โมง ก็เปิดเสียงพ่อต่อ หลายท่านคงอยากรู้ว่าผมฟังเรื่องไหน ผมฟังการฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง ฟังซ้ำไปซ้ำมา จับใจความสำคัญแล้วจำ
เช้านี้ผมมากราบหลวงพ่อที่วิหาร กราบพระทำสังฆทาน วันนี้ผมตั้งใจจะไปนั่งหน้าๆเพราะคราวก่อนนั้งด้านหลังรู้สึกไกลพระ น่ะว่าไปนั่น เออมันจะนั่งหน้านั่งหลังความจริงหาสำคัญไม่ แต่ผมมันประเภทชอบข้างหน้า เลยล่อเสียหน้าสุด ระหว่ารอเวลาด้วยความที่คราวก่อนนั้นผมฝึกไม่ได้เพราะเสียงกรีดร้องของชาวบ้าน คราวนี้ผมจึงเอาหูฟังยัดใส่หูเปิดเสียงพ่อไปด้วย มองดูไปรอบๆ เห็นเค้าว่าที่นี่เทวดาแยะ แหมจริงๆนะเยอะแยะ เต็มศาลา ระหว่างรอหลวงพี่อาจิน ท่านก็อธิบายความไปเรื่อยไอ้ผมก็ฟังพ่อด้วยฟังหลวงพี่ด้วย นะมันเอาจริงเห็มมั้ย
พอได้เวลาหลวงพี่นัน ท่านก็จุดธูปเทียนบูชาพระ ตามด้วยชุมนุมเทวดา ต่อด้วยสมาทานศีล และสมาทานพระกรรมฐาน จากนั้นก็เปิดเสียงหลวงพ่ออธิบายความการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง แหมเป็นเทปม้วนเดียวกับที่ผมฟังอยู่ก่อนหน้านี้ ผมเลยปิดของผม แล้วตั้งใจฟังเสียงท่านทางลำโพงวัด ฟังไปจำไปตั้งใจสุดๆ แต่ก็คิดเหมือนกันว่าอีกชั่วโมงข้างหน้าก็จะรู้แล้วว่าเราฝึกได้หรือไม่ได้ ผมว่าคนจัญไรประเภทผมนี่คงมีแต่ผมคนเดียว ระหว่างฟังพ่อเทศน์ก็ฟุ้งซ่านคิดเรื่อยเปื่อยไป ถ้าหากอยู่ๆผมลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนโหวกเหวก ทำเป็นตีอกชกลมนี่จะมีใครลากผมออกไปมั้ย เออกรรมจริงๆคิดได้
จากนั้นก็เริ่มนำแผ่นชื่อพระพุทธเจ้า5พระองค์มาปิดหน้าแล้วเริ่มภาวนาก็ว่าไปครับ นะมะพะทะ ภาวนาไปก็จับภาพพระไป ได้ซักพักเดียวก็เริ่มมีเสียงกรีดร้องโวยวายแหกปากดังหลายจุด เวลานี้จิตผมยังสบายมีแว็ปไปฟังเสียงบ้างกลับมาภาวนาบ้าง ผ่านไปราว10 นาที ก็ได้กลิ่นธูปหอม กลิ่นธูปนี้เกิดจากครูฝึกท่านเดินถือไปรอบๆพร้อมไฟฉาย ผมได้กลิ่มรอบแรกก็เออ หอมดี แล้วภาวนาต่อจากนั้นนึกถึงคำพ่อที่ว่าคนที่ได้แล้วไม่ต้องรอแสง ให้จับพระรูปพระโฉมพระพุทธเจ้าให้แจ่มใส ผมก็จัดไปจนองค์ท่านใสเป็นประกายพฤกระยิบระยับสวยงาม ไม่กี่อึดใจกลิ่นธูปแตะจมูกอีกรอบครับคราวนี้ตัวผมสั่นแสงมาผมก็พุ่งไปตามแสง แหมอีคราวนี้ไปได้ซะทีรอมานานและ กายในผมไปโผล่ที่ลานหน้าพระจุฬามณี มีพระสงฆ์ยืนอยู่เบื้องหน้าครับ ผมก้มลงกราบแล้วมองท่าน ผมเห็นท่านแล้วปีติมากมายครับ กราบท่านมองท่านแล้วท่านถามผมว่าจะไปไหนดีล่ะ นั่นสิไปไหนดีก็บอกท่านครับว่าไปในพระจุฬามณีก่อน ท่านเดินนำผมเข้าไปครับเข้ามาข้างในผมก็กราบพระกราบพระเขี้ยวแก้วและมวยผม และกราบเหล่าท่านทั้งหลายที่อยู่ในพระจุฬามณี ได้ยินเสียงคนคุยกันว่าเอกะมาๆ ไอ้เราก็คิดว่าเออรู้จักกันด้วยรึ แต่ไม่เห็นมีใครเข้ามาหา มันไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่าชัดจริงๆผมว่าชัดเจนมากภาพสว่างโพลงเห็นไกลขึ้น จากนั้นผมไปที่แท่นบัณฑุกัมพล พบท่านปู่ท่านย่า พอเจอท่านปู่เท่านั้นแหละร้องไห้จะเป็นจะตาย ปกติไม่เป็น มองหน้าท่านกอดขาท่านแน่นจากนั้นก็หันไปกราบท่านย่า มองหน้าท่านแล้วโวยวาย นั่นผมเอาเข้าแล้ว ไอ้กายในผมมันบ่นกับท่านย่าว่าท่านย่าไม่รักผมๆ แหมนะท่าจะเพี้ยนไอ้นี่ ท่านย่ามองตาผมแล้วโอบเข้ากอดพร้อมบอกว่ารักซิลูกทำไมจะไม่รัก เวลานี้กายในผมกอดเอวท่านย่าแน่นท่านลูบหัวผมก็พูดซ้ำคำเดิมครับแหมร้องไห้เป็นเด็กเลย มันแปลกจริงๆครับปกติไม่ร้องไห้แต่คราวนี้ร้องไห้เมื่อพบท่านปู่ท่านย่า ภาพที่เห็นนี่ชัดเจนแจ่มใสมาก เห็นแม้กระทั่งเทวดาเดินไปเดินมาบริเวณรอบๆ กราบท่านปู่ท่านย่าเสร็จผมก็เชิญท่านผู้มีพระคุณมาแล้วกราบท่าน ช่วงเวลานี้จิตมันสุขมันปีติจริงๆ
กราบทุกท่านเรียบร้อยผมก็ทูลขอพระจะขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปัจจุบัน ท่านยิ้มน้อยๆแล้วก็มาโผล่ที่หน้าวิมานพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ผมยังอยู่ในท่านั่งคุกเข่าพนมมือ พระท่านยืนข้างๆ มองเห็นรั้วหน้าวิมานเป็นแก้วใสสูงประมาณเอวได้วิมานพระท่านใหญ่โตสวยงามมาก ผมลูกขึ้นแล้วเดินตามพระไปข้างใน เห็นพระองค์ทรงประทับนั่งอยู่วันนี้คนมาหาท่านเยอะผมคลานเข้าไปกราบท่านเห็นท่านสนทนากันอยู่เจอพระอานนท์ พระโมกคลา ท่านนั่งอยู่ผมก็เข้าไปกราบท่านพระพุทธเจ้าท่านมองผมแล้วแย้มพระโอษฐ์ถามผมว่าจะรีบไปไหน แหนะผมยังไม่ทันกราบลาเลยท่านรู้ว่าผมจะรีบไป ความจริงก็จะรีบไปนั่นแหละเพราะคนเยอะแล้วเกรงๆ พอท่านท่านก็เลยต้องอยุดนั่งอยู่ก่อนฟังท่านพูด ซักพักผมก็กราบลาท่านบอกท่านว่าจะไปกราบท่านพ่อซักหน่อย ท่านพยักหน้ารับผมก็ไปโผล่ที่หน้าวิมานท่านพ่อ เจอท่านพ่อก็โผลงก้มกราบท่าน ท่านจับไหล่ผมให้ลุกขึ้นยืนแล้วกอดผม ท่านบอกเดี๋ยวนี้มาไม่นานแป๊บๆจะไปยังไม่ทันได้คุย มันเป็นยังไงฮึ นั่นเอาแล้วโดนเข้าแล้วหันมาทางขวาเจอท่านแม่ ท่านมาทั้งสามเลยกราบเรียบ คุยกับท่านพักนึงก็ขอไปวิมานตัวเอง ผมมาโผล่หน้าวิมานก็เดินข้ามสระน้ำเหลือบไปมองริมสระด้านซ้ายเห็นเจดีย์ใหญ่อยู่สามหลังยอดสูงสวยงามมาก ผมเข้ามานั่งข้างในพระท่านมาด้วยท่านนั่งทางขวามือท่านมีแทนของท่านแต่พระที่มาไม่ใช่พระรูปเดิมพระรูปนี้ท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ท่านมาสอนหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ท่านสอนแล้วทำทันทีคือเรื่องแผ่เมตตา ผมถามท่านว่าเวลานี้มีญาติพี่น้องผมอยู่ในนรกมีมั้ยท่านบอกอันนี้ต้องไปถามท่านพยายมราช ท่านตรัสจบก็มาโผล่ที่สำนักท่านพยายมราช แหมปกติท่านลุงไม่ใส่ชฏาวันนี้ท่านล่อเสียเต็มยศ สวยงามหนุ่มหล่อเชียว ยังไม่ทันถามท่านลุงท่านก็ตอบว่าญาติเธอน่ะมีในนรกแต่เธอช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้จนกว่าจะถึงวาระที่หมดโทษ ผมเลยถามท่านว่าถ้าอย่างนั้นผมฝากบุญไว้ให้โมทนาได้มั้ย ท่านพยักหน้ารับ ผมหันไปมองพระท่านก็แย้มพระโอษฐ์ ก็เลยจัดไป ผมอาราธนาบารมีพระ และบุญกุศลที่ผมได้บำเพ็ญมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและผลบุญที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต จงมารวมกัน เมื่อใดที่ญาตพี่น้องของผมถึงวาระขอให้ท่านพยายมราชจงแจ้งให้เขาโมทนาบุญนี้ด้วยเทอญ เวลานั้นมีแสงสีขาวนวลมารวมกันเป็นก้อนมากมายสีสันสวยงามมาก ผมฝากท่านลุงไว้จากนั้นก็มาโผล่ที่วิมานพระท่านตรัสถามผมว่าเธอเคยเห็นเขตของพระนิพพานหรือยัง ผมตอบท่านว่าผมเคยเห็นแต่ไม่ชัดเจน ท่านเลยพาชมครับ เวลานั้นกายในลอยออกมานอกวิมานผมเห็นคนอื่นเดินไปเดินมาเต็มไปหมดแต่ละคนมีพระมาด้วย คงจะเป็นคนที่มาฝึกด้วยกันวันนี้
พอขึ้นมาสูงผมก็มองดูขอบเขตพระนิพพาน แหมมองไม่สุดครับ พระท่านว่าที่นี่ไม่มีที่สิ้นสุด สวยงามระยิบระยับครับเพชรแพรวพราวสว่างทั่วบริเวณจริงๆจากนั้นก็กลับลงมา ด้วยความที่ผมอยากรู้ว่าปู่ทวดกับปู่ผมเวลานี้อยู่ที่ไหนก็เลยขออนุญาติพระเชิญท่านมา ปู่ทวดมาก่อนท่านบอกว่าท่านอยู่ดุสิต จากนั้นปู่ผมตามมา ท่านบอกท่านอยู่จาตุ แหมทั้งสองท่านมาก็คลานมากราบพระเสียสวยงามเลย ผมนี่นั่งยิ้มนี่ทั้งคู่เป็นมุสลิมนะเนี้ย จากนั้นก็ยายกับตาผม ยายท่านอยู่พรหม เครื่องแต่งกายสวยมาก ส่วนตาท่านอยู่จาตุ ก็พูคุยกันอยู่พักนึง นึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนอีกองค์ท่านชื่อท่านจันทรเทวา แหมนึกปุ๊บมาเลยท่านสว่างมายกายสวยผ่องมากไอ้ผมก็เตรียมก้มลงกราบ เจอท่านทักเข้าให้ว่า เอปกติท่านไม่เคยกราบผมนะ นั่นไงเอาแล้ว แหมก็ไอ้เวลาปกติมันไม่ได้เห็นชัดขนาดนี้ ทักซะแบบนี้ไม่กราบก็ได้ท่านก็ยิ้มใหญ่
ผมมองท่านด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคย ท่านดูเมตตามาก ผมก็นึกขึ้นได้ว่ทเคยขอให้ท่านช่วยเรื่องนึงแต่ไม่สำเร็จ ก็ถามท่านว่านี่่ท่านวันก่อนผมขอให้ท่านช่วยเรื่องนั้นทำไมท่านช่วยไม่ได้ แหมเล่มถามต่อหน้าพระกันเลยเชียว ท่านว่าคุณสิ่งที่คุณขอนั้นมันเต็มไปด้วยกิเลส ผมจึงไม่ให้แต่ถ้าคุณขอด้วยใจอันปราศจากความอยากและมีความจำเป็นผมก็จะช่วย นั่นดูเทวดาตอบนี่ผมแทบแทรกพื้นพระนิพพานหนี ท่านก็ยังมองผมด้วยความเมตตา แหมเจอเทวดาสอนก็น้อมรับครับ จากนั้นผมก็กราบพระแล้วกลับลงมา แต่อีตอนลงมานี่ลืมตาเร็วไปหน่อยยังลงมาไม่หมดเลยทำให้เวียนหัวเบลอๆนิดหน่อย. วันนี้เจอชาว9ทัพมากันมากมายรวมทั้งช้างเผือกก็ยินดีกับทุกคนด้วยที่มาทำความดีกันบางคนไปได้บางคนไปไม่ได้ วันนี้หลังจากไปได้ผมก็ยิ้มปีติสบายใจมาไม่เสียเที่ยวครับ.
สำหรับวันที่ 2นั้น วันนี้ความวิตกกังวลหายไปผมวางอารมณ์ใจสบายๆคิดว่าวันนี้ไปได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่เมื่อวานก็คุ้มแล้ววันนี้เลยมีความรู้สึกไม่ตั้งใจเท่าไหร่ พอได้เวลาผมก็นั่งภาวนาเหมือนวันแรกครับแต่ที่ต่างคืออารมณ์ที่ปราศจากพรหมวิหาร4 ที่ว่าปราศจากนี่มันบังเอิญว่าอีคนที่แหกปากร้องโวยวายดันอยู่ด้านหลังใกล้ผม แหมพ่อเจ้าประคุณเล่นแหกปากตะโกนร้องเสียงดังจนผมรำคาญ. ใจคิดเดี๋ยวกูลุกไปเตะแม่งซักป๊าบสองป๊าบเอาให้มันเงียบ
ซักพักเสียงอีสาวไหนอีกกรีดร้องดังลั่นศาลามันน่าเตะให้หลับเสียจริง. นั่นเห็นมั้ยจิตมันห่างพรหมวิหารไปมาก. ซักพักก็ตัดสินใจว่าเอาวะไหนๆมานั่งแล้วได้ไม่ได้ชั่งมัน. เวลานี้ก็จับภาพพระเต็มอัตราจนใสเป็นประกายแพรวพราว. มาและกลิ่นธูป. พอกลิ่นธูปแตะจมูกจิตมันถูกดึงขึ้นไปทันทีครับ. วันนี้ไม่ชัดเหมือนเมื่อวานคงเป็นเพราะอยากไปทำให้เสียงเงียบมั้ง. ขึ้นมาก็ไปกราบทุกท่านแต่ละที่. จากนั้นก็ไปนั่งที่พระนิพพานคุยกับพระ.วันนี้ไม่อยากไปไหนก็เลยดูว่าสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวตายแล้วไปไหน. เชิญพ่อที่เป็นพรหมมาพบคุยกับท่านพักนึง. ไปกราบท่านสหัมบดีพรหม. วันนี้หลักก็คุยกับพระ. มีความรู้สึกว่าวันนี้นี่ความแจ่มใสสู้เมื่อวานไม่ได้เลย. แต่ช่างมันครับผมว่าผมพอใจกับสิ่งที่ได้แล้วเวลานี้อยากเหาะได้หายตัวได้คงดีไม่น้อยจริงมั้ย. ไปทำงานก็นะหายตัวไปเออคงทำได้ซักวันไม่รู้เมื่อไหร่
สำหรับท่านที่ฝึกใหม่ก็อย่าไปท้อถอยครับพยายามต่อไปเพราะอะไรก็เพราะมันไม่ใช่ของง่ายแล้วก็ไม่ยาก. ผมทำได้ท่านก็ทำได้ไม่ยากครับ. หลายคนเล่าให้ผมฟังว่าทำไมไปไม่ได้แบบเต็มกำลัง. อย่าลืมนะเต็มกำลังนี่ไปด้วยกำลังของฌาน4 การที่ผมจับภาพพระใสเป็นประกายพฤกนั่นแหละกำลังของฌาน4ในอาโลกสิณ. ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านมุ่งมั่นต่อไปเอาวิชาพระพุทธเจ้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด. ออมีเรื่องอยากบอกอีกนิดอันนี้อยากบอกไปอย่างงั้นแหละไม่ได้อวดหรือโชว์. คือผมไม่ดื่มเหล้ามาจะครบ2ปีแล้วครับ55555555. วันนี้ก็ขอจบเรื่องเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้สุดท้ายนี้ขออ้างคุณพระรัตนตรัยและเหล่าเทวดาพรหม จงอวยชัยให้พรแด่ท่านผู้อ่านให้พบความทุกข์น้อยลงเจริญด้วยอริยทรัพย์. เงินทองไหลมาเทมา เจริญในหน้าที่การงาน สุขภาพแข็งแรง มีความสุขกายสุขใจตลอดปีใหม่นี้ด้วยเทอญ…สวัสดีปีใหม่ครับ