ตอนที่ 44

by admin

ตอนที่ 44

by admin

by admin

มโนมยิทธิเต็มกำลังของผม

สวัสดีพี่น้องชาวอโยธยาศรีรามเทพนครทุกท่าน  วันนี้วันดี 9/12/2555 เออนะมันต้องวันดีค่อยมาเล่า  ความจริงขี้เกียจเสียมากกว่า  เรื่องเล่ามันมีมากแต่เล่าไปก็เท่านั้น  นานๆเล่าทีก็ดีเหมือนกัน  มาเข้าเรื่องก็เลย  เมื่อวันที่ 8ธันวาคม เป็นอีกครั้งที่ผมไปฝึกมโนมยิทธิ  จริงๆมันแปลกว่ามั้ยเพราะปกติสอนชาวบ้านแต่วันนี้มาฝึกเอง  ที่มาฝึกก็เพราะผมเคยมาฝึกเมื่อปลายปี53 แต่ตอนนั้นไม่ได้เรื่องได้ราว  มีแต่เสียงคนแหกปากร้องโหยหวน  จบกัน  มันก็ไม่ได้ละซิ  

ส่วนปีที่แล้วน้ำท่วมผมเลยไม่ได้มา  กาลนี้ผมไปล่วงหน้าหนึ่งวัน ไปปรับตัวปรับใจ  ฟังพ่อเทศน์ตลอดทั้งคืน  จับลม ไอ้ลมนี่จะจับคงไม่ได้เดี๋ยวคนไม่รู้จะงง  จับลมก็หมายถึงจับลมหายใจ  ว่าเวลานี้หายใจเข้าหรือหายใจออก  รวมความว่าคืนวันก่อนฝึกนอนซะเกือบตีหนึ่ง  ตื่นมา 7โมง ก็เปิดเสียงพ่อต่อ  หลายท่านคงอยากรู้ว่าผมฟังเรื่องไหน  ผมฟังการฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง  ฟังซ้ำไปซ้ำมา  จับใจความสำคัญแล้วจำ

เช้านี้ผมมากราบหลวงพ่อที่วิหาร  กราบพระทำสังฆทาน  วันนี้ผมตั้งใจจะไปนั่งหน้าๆเพราะคราวก่อนนั้งด้านหลังรู้สึกไกลพระ  น่ะว่าไปนั่น เออมันจะนั่งหน้านั่งหลังความจริงหาสำคัญไม่  แต่ผมมันประเภทชอบข้างหน้า  เลยล่อเสียหน้าสุด  ระหว่ารอเวลาด้วยความที่คราวก่อนนั้นผมฝึกไม่ได้เพราะเสียงกรีดร้องของชาวบ้าน   คราวนี้ผมจึงเอาหูฟังยัดใส่หูเปิดเสียงพ่อไปด้วย  มองดูไปรอบๆ  เห็นเค้าว่าที่นี่เทวดาแยะ  แหมจริงๆนะเยอะแยะ  เต็มศาลา    ระหว่างรอหลวงพี่อาจิน ท่านก็อธิบายความไปเรื่อยไอ้ผมก็ฟังพ่อด้วยฟังหลวงพี่ด้วย  นะมันเอาจริงเห็มมั้ย  

พอได้เวลาหลวงพี่นัน ท่านก็จุดธูปเทียนบูชาพระ ตามด้วยชุมนุมเทวดา  ต่อด้วยสมาทานศีล และสมาทานพระกรรมฐาน  จากนั้นก็เปิดเสียงหลวงพ่ออธิบายความการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง  แหมเป็นเทปม้วนเดียวกับที่ผมฟังอยู่ก่อนหน้านี้  ผมเลยปิดของผม  แล้วตั้งใจฟังเสียงท่านทางลำโพงวัด  ฟังไปจำไปตั้งใจสุดๆ  แต่ก็คิดเหมือนกันว่าอีกชั่วโมงข้างหน้าก็จะรู้แล้วว่าเราฝึกได้หรือไม่ได้  ผมว่าคนจัญไรประเภทผมนี่คงมีแต่ผมคนเดียว  ระหว่างฟังพ่อเทศน์ก็ฟุ้งซ่านคิดเรื่อยเปื่อยไป ถ้าหากอยู่ๆผมลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนโหวกเหวก  ทำเป็นตีอกชกลมนี่จะมีใครลากผมออกไปมั้ย  เออกรรมจริงๆคิดได้

จากนั้นก็เริ่มนำแผ่นชื่อพระพุทธเจ้า5พระองค์มาปิดหน้าแล้วเริ่มภาวนาก็ว่าไปครับ นะมะพะทะ  ภาวนาไปก็จับภาพพระไป ได้ซักพักเดียวก็เริ่มมีเสียงกรีดร้องโวยวายแหกปากดังหลายจุด  เวลานี้จิตผมยังสบายมีแว็ปไปฟังเสียงบ้างกลับมาภาวนาบ้าง  ผ่านไปราว10 นาที  ก็ได้กลิ่นธูปหอม  กลิ่นธูปนี้เกิดจากครูฝึกท่านเดินถือไปรอบๆพร้อมไฟฉาย  ผมได้กลิ่มรอบแรกก็เออ  หอมดี  แล้วภาวนาต่อจากนั้นนึกถึงคำพ่อที่ว่าคนที่ได้แล้วไม่ต้องรอแสง  ให้จับพระรูปพระโฉมพระพุทธเจ้าให้แจ่มใส  ผมก็จัดไปจนองค์ท่านใสเป็นประกายพฤกระยิบระยับสวยงาม  ไม่กี่อึดใจกลิ่นธูปแตะจมูกอีกรอบครับคราวนี้ตัวผมสั่นแสงมาผมก็พุ่งไปตามแสง  แหมอีคราวนี้ไปได้ซะทีรอมานานและ  กายในผมไปโผล่ที่ลานหน้าพระจุฬามณี  มีพระสงฆ์ยืนอยู่เบื้องหน้าครับ  ผมก้มลงกราบแล้วมองท่าน  ผมเห็นท่านแล้วปีติมากมายครับ  กราบท่านมองท่านแล้วท่านถามผมว่าจะไปไหนดีล่ะ  นั่นสิไปไหนดีก็บอกท่านครับว่าไปในพระจุฬามณีก่อน  ท่านเดินนำผมเข้าไปครับเข้ามาข้างในผมก็กราบพระกราบพระเขี้ยวแก้วและมวยผม  และกราบเหล่าท่านทั้งหลายที่อยู่ในพระจุฬามณี ได้ยินเสียงคนคุยกันว่าเอกะมาๆ  ไอ้เราก็คิดว่าเออรู้จักกันด้วยรึ  แต่ไม่เห็นมีใครเข้ามาหา   มันไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่าชัดจริงๆผมว่าชัดเจนมากภาพสว่างโพลงเห็นไกลขึ้น  จากนั้นผมไปที่แท่นบัณฑุกัมพล  พบท่านปู่ท่านย่า  พอเจอท่านปู่เท่านั้นแหละร้องไห้จะเป็นจะตาย  ปกติไม่เป็น  มองหน้าท่านกอดขาท่านแน่นจากนั้นก็หันไปกราบท่านย่า  มองหน้าท่านแล้วโวยวาย  นั่นผมเอาเข้าแล้ว  ไอ้กายในผมมันบ่นกับท่านย่าว่าท่านย่าไม่รักผมๆ  แหมนะท่าจะเพี้ยนไอ้นี่  ท่านย่ามองตาผมแล้วโอบเข้ากอดพร้อมบอกว่ารักซิลูกทำไมจะไม่รัก  เวลานี้กายในผมกอดเอวท่านย่าแน่นท่านลูบหัวผมก็พูดซ้ำคำเดิมครับแหมร้องไห้เป็นเด็กเลย  มันแปลกจริงๆครับปกติไม่ร้องไห้แต่คราวนี้ร้องไห้เมื่อพบท่านปู่ท่านย่า   ภาพที่เห็นนี่ชัดเจนแจ่มใสมาก  เห็นแม้กระทั่งเทวดาเดินไปเดินมาบริเวณรอบๆ  กราบท่านปู่ท่านย่าเสร็จผมก็เชิญท่านผู้มีพระคุณมาแล้วกราบท่าน  ช่วงเวลานี้จิตมันสุขมันปีติจริงๆ

กราบทุกท่านเรียบร้อยผมก็ทูลขอพระจะขึ้นไปกราบสมเด็จองค์ปัจจุบัน  ท่านยิ้มน้อยๆแล้วก็มาโผล่ที่หน้าวิมานพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน  ผมยังอยู่ในท่านั่งคุกเข่าพนมมือ พระท่านยืนข้างๆ  มองเห็นรั้วหน้าวิมานเป็นแก้วใสสูงประมาณเอวได้วิมานพระท่านใหญ่โตสวยงามมาก  ผมลูกขึ้นแล้วเดินตามพระไปข้างใน  เห็นพระองค์ทรงประทับนั่งอยู่วันนี้คนมาหาท่านเยอะผมคลานเข้าไปกราบท่านเห็นท่านสนทนากันอยู่เจอพระอานนท์ พระโมกคลา ท่านนั่งอยู่ผมก็เข้าไปกราบท่านพระพุทธเจ้าท่านมองผมแล้วแย้มพระโอษฐ์ถามผมว่าจะรีบไปไหน  แหนะผมยังไม่ทันกราบลาเลยท่านรู้ว่าผมจะรีบไป  ความจริงก็จะรีบไปนั่นแหละเพราะคนเยอะแล้วเกรงๆ  พอท่านท่านก็เลยต้องอยุดนั่งอยู่ก่อนฟังท่านพูด  ซักพักผมก็กราบลาท่านบอกท่านว่าจะไปกราบท่านพ่อซักหน่อย  ท่านพยักหน้ารับผมก็ไปโผล่ที่หน้าวิมานท่านพ่อ  เจอท่านพ่อก็โผลงก้มกราบท่าน ท่านจับไหล่ผมให้ลุกขึ้นยืนแล้วกอดผม  ท่านบอกเดี๋ยวนี้มาไม่นานแป๊บๆจะไปยังไม่ทันได้คุย มันเป็นยังไงฮึ  นั่นเอาแล้วโดนเข้าแล้วหันมาทางขวาเจอท่านแม่  ท่านมาทั้งสามเลยกราบเรียบ คุยกับท่านพักนึงก็ขอไปวิมานตัวเอง  ผมมาโผล่หน้าวิมานก็เดินข้ามสระน้ำเหลือบไปมองริมสระด้านซ้ายเห็นเจดีย์ใหญ่อยู่สามหลังยอดสูงสวยงามมาก  ผมเข้ามานั่งข้างในพระท่านมาด้วยท่านนั่งทางขวามือท่านมีแทนของท่านแต่พระที่มาไม่ใช่พระรูปเดิมพระรูปนี้ท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน  ท่านมาสอนหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ท่านสอนแล้วทำทันทีคือเรื่องแผ่เมตตา  ผมถามท่านว่าเวลานี้มีญาติพี่น้องผมอยู่ในนรกมีมั้ยท่านบอกอันนี้ต้องไปถามท่านพยายมราช  ท่านตรัสจบก็มาโผล่ที่สำนักท่านพยายมราช   แหมปกติท่านลุงไม่ใส่ชฏาวันนี้ท่านล่อเสียเต็มยศ  สวยงามหนุ่มหล่อเชียว  ยังไม่ทันถามท่านลุงท่านก็ตอบว่าญาติเธอน่ะมีในนรกแต่เธอช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้จนกว่าจะถึงวาระที่หมดโทษ  ผมเลยถามท่านว่าถ้าอย่างนั้นผมฝากบุญไว้ให้โมทนาได้มั้ย ท่านพยักหน้ารับ  ผมหันไปมองพระท่านก็แย้มพระโอษฐ์ ก็เลยจัดไป  ผมอาราธนาบารมีพระ และบุญกุศลที่ผมได้บำเพ็ญมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและผลบุญที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต จงมารวมกัน เมื่อใดที่ญาตพี่น้องของผมถึงวาระขอให้ท่านพยายมราชจงแจ้งให้เขาโมทนาบุญนี้ด้วยเทอญ เวลานั้นมีแสงสีขาวนวลมารวมกันเป็นก้อนมากมายสีสันสวยงามมาก  ผมฝากท่านลุงไว้จากนั้นก็มาโผล่ที่วิมานพระท่านตรัสถามผมว่าเธอเคยเห็นเขตของพระนิพพานหรือยัง  ผมตอบท่านว่าผมเคยเห็นแต่ไม่ชัดเจน  ท่านเลยพาชมครับ  เวลานั้นกายในลอยออกมานอกวิมานผมเห็นคนอื่นเดินไปเดินมาเต็มไปหมดแต่ละคนมีพระมาด้วย  คงจะเป็นคนที่มาฝึกด้วยกันวันนี้  

พอขึ้นมาสูงผมก็มองดูขอบเขตพระนิพพาน  แหมมองไม่สุดครับ พระท่านว่าที่นี่ไม่มีที่สิ้นสุด สวยงามระยิบระยับครับเพชรแพรวพราวสว่างทั่วบริเวณจริงๆจากนั้นก็กลับลงมา  ด้วยความที่ผมอยากรู้ว่าปู่ทวดกับปู่ผมเวลานี้อยู่ที่ไหนก็เลยขออนุญาติพระเชิญท่านมา  ปู่ทวดมาก่อนท่านบอกว่าท่านอยู่ดุสิต  จากนั้นปู่ผมตามมา  ท่านบอกท่านอยู่จาตุ แหมทั้งสองท่านมาก็คลานมากราบพระเสียสวยงามเลย  ผมนี่นั่งยิ้มนี่ทั้งคู่เป็นมุสลิมนะเนี้ย จากนั้นก็ยายกับตาผม  ยายท่านอยู่พรหม เครื่องแต่งกายสวยมาก ส่วนตาท่านอยู่จาตุ ก็พูคุยกันอยู่พักนึง นึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนอีกองค์ท่านชื่อท่านจันทรเทวา  แหมนึกปุ๊บมาเลยท่านสว่างมายกายสวยผ่องมากไอ้ผมก็เตรียมก้มลงกราบ  เจอท่านทักเข้าให้ว่า เอปกติท่านไม่เคยกราบผมนะ นั่นไงเอาแล้ว แหมก็ไอ้เวลาปกติมันไม่ได้เห็นชัดขนาดนี้ ทักซะแบบนี้ไม่กราบก็ได้ท่านก็ยิ้มใหญ่

ผมมองท่านด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคย ท่านดูเมตตามาก ผมก็นึกขึ้นได้ว่ทเคยขอให้ท่านช่วยเรื่องนึงแต่ไม่สำเร็จ ก็ถามท่านว่านี่่ท่านวันก่อนผมขอให้ท่านช่วยเรื่องนั้นทำไมท่านช่วยไม่ได้  แหมเล่มถามต่อหน้าพระกันเลยเชียว ท่านว่าคุณสิ่งที่คุณขอนั้นมันเต็มไปด้วยกิเลส  ผมจึงไม่ให้แต่ถ้าคุณขอด้วยใจอันปราศจากความอยากและมีความจำเป็นผมก็จะช่วย นั่นดูเทวดาตอบนี่ผมแทบแทรกพื้นพระนิพพานหนี  ท่านก็ยังมองผมด้วยความเมตตา แหมเจอเทวดาสอนก็น้อมรับครับ จากนั้นผมก็กราบพระแล้วกลับลงมา แต่อีตอนลงมานี่ลืมตาเร็วไปหน่อยยังลงมาไม่หมดเลยทำให้เวียนหัวเบลอๆนิดหน่อย. วันนี้เจอชาว9ทัพมากันมากมายรวมทั้งช้างเผือกก็ยินดีกับทุกคนด้วยที่มาทำความดีกันบางคนไปได้บางคนไปไม่ได้  วันนี้หลังจากไปได้ผมก็ยิ้มปีติสบายใจมาไม่เสียเที่ยวครับ.  

สำหรับวันที่ 2นั้น วันนี้ความวิตกกังวลหายไปผมวางอารมณ์ใจสบายๆคิดว่าวันนี้ไปได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร  แค่เมื่อวานก็คุ้มแล้ววันนี้เลยมีความรู้สึกไม่ตั้งใจเท่าไหร่  พอได้เวลาผมก็นั่งภาวนาเหมือนวันแรกครับแต่ที่ต่างคืออารมณ์ที่ปราศจากพรหมวิหาร4 ที่ว่าปราศจากนี่มันบังเอิญว่าอีคนที่แหกปากร้องโวยวายดันอยู่ด้านหลังใกล้ผม  แหมพ่อเจ้าประคุณเล่นแหกปากตะโกนร้องเสียงดังจนผมรำคาญ. ใจคิดเดี๋ยวกูลุกไปเตะแม่งซักป๊าบสองป๊าบเอาให้มันเงียบ

ซักพักเสียงอีสาวไหนอีกกรีดร้องดังลั่นศาลามันน่าเตะให้หลับเสียจริง. นั่นเห็นมั้ยจิตมันห่างพรหมวิหารไปมาก. ซักพักก็ตัดสินใจว่าเอาวะไหนๆมานั่งแล้วได้ไม่ได้ชั่งมัน.  เวลานี้ก็จับภาพพระเต็มอัตราจนใสเป็นประกายแพรวพราว. มาและกลิ่นธูป. พอกลิ่นธูปแตะจมูกจิตมันถูกดึงขึ้นไปทันทีครับ.  วันนี้ไม่ชัดเหมือนเมื่อวานคงเป็นเพราะอยากไปทำให้เสียงเงียบมั้ง. ขึ้นมาก็ไปกราบทุกท่านแต่ละที่. จากนั้นก็ไปนั่งที่พระนิพพานคุยกับพระ.วันนี้ไม่อยากไปไหนก็เลยดูว่าสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวตายแล้วไปไหน. เชิญพ่อที่เป็นพรหมมาพบคุยกับท่านพักนึง. ไปกราบท่านสหัมบดีพรหม. วันนี้หลักก็คุยกับพระ. มีความรู้สึกว่าวันนี้นี่ความแจ่มใสสู้เมื่อวานไม่ได้เลย.  แต่ช่างมันครับผมว่าผมพอใจกับสิ่งที่ได้แล้วเวลานี้อยากเหาะได้หายตัวได้คงดีไม่น้อยจริงมั้ย. ไปทำงานก็นะหายตัวไปเออคงทำได้ซักวันไม่รู้เมื่อไหร่ 

สำหรับท่านที่ฝึกใหม่ก็อย่าไปท้อถอยครับพยายามต่อไปเพราะอะไรก็เพราะมันไม่ใช่ของง่ายแล้วก็ไม่ยาก. ผมทำได้ท่านก็ทำได้ไม่ยากครับ. หลายคนเล่าให้ผมฟังว่าทำไมไปไม่ได้แบบเต็มกำลัง. อย่าลืมนะเต็มกำลังนี่ไปด้วยกำลังของฌาน4 การที่ผมจับภาพพระใสเป็นประกายพฤกนั่นแหละกำลังของฌาน4ในอาโลกสิณ. ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านมุ่งมั่นต่อไปเอาวิชาพระพุทธเจ้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด. ออมีเรื่องอยากบอกอีกนิดอันนี้อยากบอกไปอย่างงั้นแหละไม่ได้อวดหรือโชว์. คือผมไม่ดื่มเหล้ามาจะครบ2ปีแล้วครับ55555555.   วันนี้ก็ขอจบเรื่องเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้สุดท้ายนี้ขออ้างคุณพระรัตนตรัยและเหล่าเทวดาพรหม จงอวยชัยให้พรแด่ท่านผู้อ่านให้พบความทุกข์น้อยลงเจริญด้วยอริยทรัพย์. เงินทองไหลมาเทมา เจริญในหน้าที่การงาน สุขภาพแข็งแรง มีความสุขกายสุขใจตลอดปีใหม่นี้ด้วยเทอญ…สวัสดีปีใหม่ครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top