ตอนที่ 53

by admin

ตอนที่ 53

by admin

by admin

ดาวโดนของ

สวัสดีท่านผู้อ่าน วันนี้วันที่ 27 กันยายน  2556  หายไปเดือนเศษมีภารกิจเยอะครับ ขับรถจนตูดแตกลายงาหมดละไปนู้นนี่นั่นตลอด  หลายต่อหลายท่านถามมามากอยากติดต่อผม แน่ะท่าจะอยากคุยอยากสนทนา  เอางี้ละกันให้ Line ไว้  ID NAKHUNKRIT  ครับไว้คุยกันได้แต่ๆไม่ดูดวง ไม่แก้กรรม  ไม่หลอกถามนู้นถามนี่นะครับ  ถามเรื่องการปฏิบัติได้  อันนี้จัดให้  ใครแอดมาแล้วก็แจ้งด้วยว่า หลวงพ่อตามกลับ  ผมจะได้แอดเข้ากลุ่ม  

ช่วงเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ดวงตกที่สุดในปีนี้ของผม  มีแต่เรื่องซวยๆ  คงจะจริงที่ช่วงวันเกิดจะเป็นช่วงงานเข้า  ซวยซ้ำซวยซ้อน  แหมเดิมทีคิดว่ารับมือได้สบาย  เอาเข้าจริงพอเจอเรื่องต่างๆมากระทบเล่นเอาเป๋เหมือนกันนะ  ใจมันไม่นิ่ง มีอาการคล้ายๆกับเวลาเขาจะประกาศผลสอบ  มันตื่นเต้น กังวล ใจหวิว ไม่สบายใจ  หมดแรง ขาอ่อน  เนี่ยประมาณนี้เลย  พอเอาจิตจับพระนิพพานแหมนานเลยกว่าจะคลายตัว  ผมนี่นานๆจะเป็นแบบนี้  ระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาผมฟังหลวงพ่อทุกคืนยันเช้า  ตอนเช้าฟังในรถ  ฟังแล้วทำตาม  ตั้งกำลังใจไว้ว่าจะต้องฝึกอรูปฌาน  ก็เลยจัดเต็ม  ตามด้วยฝึกทิพจักขุญานให้แจ่มใส  ก็ต้องขอบอกว่าฝึกหนักเอาเรื่องเล่นทั้งวันทั้งคืนน้อยมากที่พระจะหาย  พระที่ผมจับนึกปุ๊บภาพพระมาสวยใสประกายพฤก  ผมเล่นจนชำนาญพอสมควร  กะว่าวันนึงคงได้ใช้ในทางโลก  ก็ยังไม่บอกก็แล้วกันว่าจะเอาไปทำอะไร  ไอ้เรามันประเภทชอบลอง  ลองให้ถึงที่สุด  

ช่วงนี้ผมวิ่งขึ้นวิ่งลงเชียงใหม่ตลอดไปวันนี้พรุ่งนี้กลับขับรถอย่างกับไปแถวนี้  เหนื่อยใช้ได้  เครียดใช้ได้  ทุกข์ใช้ได้  ก็เลยทำให้น้ำหนักขึ้น  เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย  วันนี้มาดึงกันซักนิด  หลวงพ่อท่านบอกว่าผู้ใดที่ได้มโนมยิทธิแล้ว  ไปนรกได้ สวรรค์ได้ ไปบนนิพพานได้  แต่ยังไม่รักษาศีล  ไม่พยายามทำตนให้พ้นนรก  มันก็แย่ก็เลวเต็มที  ยังมีอบายภูมิเป็นที่ไปอยู่  ปากบอกรักหลวงพ่อแต่ใจไม่ใช่  บางทีผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม  รู้อยู่แล้วแต่ไม่ทำ  บทจะเต็มที่ก็ล้นกันไป  บทจะทิ้งก็ทิ้งหาย  บอกตรงๆครับ  ผมสงสารท่าน  ตายไปแล้วเราจะตามกันไม่ไหว  รักท่านเคารพท่านหมั่นรักษาศีล  เอาให้ถึงที่สุด   ผมอยากจะบอกครับว่าการฟังคำสอนแล้วไม่ปฏิบัติมันสูญเปล่า  หาได้มีผลอันใดไม่  แต่ถ้าฟังและทำตามอันนี้มีผลมาก   ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงท่านบันทึกไว้  วันนี้ป่วยมาก  วันนี้ลิ้นแข็ง  ถ่ายไม่ออก  บางทีสั่งน้ำมูก  ผมสำนึกในความรักความเมตตาของท่านที่มีให้ลูกๆหลานๆ หลวงพ่อท่านไม่ทิ้งเรา  มีแต่เราที่ทิ้งท่าน  มองดูใจเราครับว่าวันนี้ใจเรายังต้องการนิพพานมั้ย  มันจะยังสู้มั้ย  พร้อมมั้ยที่จะไม่มาเกิด  ผมเข้าใจครับว่าเดี๋ยวนี้กิเลส  สิ่งยั่วยุมันมีมาก  หากเรามองมันแล้วรู้เท่าทันมัน  เราจะได้สู้กับมันได้    วันนี้ใจผมยังสู้ผมจะสู้ไม่ถอย  จิตมันอยู่กับนิวรมานาน  สู้กับมันทุกวันไปเรื่อยๆ  วันนึงเราต้องชนะมันได้  

สองวันที่ผ่านมาผมไปเชียงใหม่มีเจ๊ดาวไปด้วย  ก่อนไปก็แวะไปปากช่องก่อนแล้วก็ตีขึ้นเชียงใหม่  ผมก็ให้เจ๊แกขับรถผมก็นั่งเล่นไอแพดไปเรื่อย  พอดีว่าได้คุยกับพี่ท่านนึงในไลน์เลยจำเป็นต้องทรงอารมณ์   เอาจิตจับพระพอใจสบายก็ใช้ทิพจักขุญานคุยไปส่องไป  จู่ๆก็มีความรู้สึกว่าเจ๊แกท่าจะโดนคุณไสย  ระหว่างนั้นผมก็ส่องเจ๊ก็ปรากฏภาพขึ้นมา   ดูไปดูมาผมก็บอกกับเจ๊แกว่าพี่ดาวโดนของนะ  ผมก็เล่าให้ฟังว่าผมเห็นอะไรบ้าง  เจ๊แกบอกว่ารู้สึกเหมือนกัน  ผมอธิบายอาการต่างๆให้เจ๊ฟังว่า ไอ้คนเวลามันโดนของเนี้ยจิตใจมันจะร้อนรน กระวนกระวาย  อยากจะไปหาเขาอยากไปเจอเขา  พี่ดาวเป็นอย่างงั้นมั้ย  มันเปลี่ยนเรื่องพูดเฉยเลย  ไอ้เราก็งง คิดในใจ อีนี่เป็นเยอะ  เลยถามเจ๊ไปว่า  พี่ดาวรู้ใช่มั้ยว่าโดนของ  อยากให้ช่วยมั้ย  เจ๊แกว่ารู้สึกว่าโดน  แล้วก็อยากให้ช่วย  ผมเลยว่างั้นเอางี้นะ  พูดคำว่า สัมปจิตฉามิ  

เจ๊เงียบมันไม่ยอมพูด  ผมก็มองหน้ามึงเอาไงเนี้ยไหนบอกให้ช่วย  เอ้าพี่ดาวพูดออกมา สัมปจิตฉามิ  ทีนี้มันบอกว่ามันพูดในใจ  ไม่ยอมพูดอีก  ผมชักอารมณ์ขึ้น  พร้อมขึ้นเสียง พูดออกมาเร็วๆ  พูด    เออเอากะมันดิมันพูดนะครับแต่พูดตะกุกตะกัก  เวลานี้ผมกำหนดจิตส่องเต็มที่เลย  ทีนี้พอเข้าใจครับผมส่องแล้วได้ความว่ามันสองจิตสองใจ  ใจนึงอยากจะถอนแต่อีกใจไม่อยากพูด  เอาวะของมันแรง  ผมถามอีกครั้งว่าตกลงจะให้ช่วยมั้ย  เจ๊บอกเดี๋ยวพี่แก้เอง  พี่มีของดี  นั้นแหมเอาแล้วมั้ย  ตอบไม่ตรงคำถาม  ผมชักรำคาญไปเร้าหรือมันมากแม่งหักพวกมาลัยลงข้างทางจะซวยใหญ่  เลยบอกว่างั้นจบไม่ต้องคุยเรื่องนี้อีก  อย่ามาขอให้ช่วยนะในเมื่อตัวเองยังไม่อยากจะพูดเลย  แหมผมยอมรับว่าเจ๊มันแปลกไปจริงๆปกติสั่งอะไรจะทำทุกอย่าง  

พอมาถึงเชียงใหม่ก็เข้าที่พักกัน  ผมดูๆอาการแล้วไม่อยากยุ่งเลย  มันเป็นกรรมเดี๋ยวไปช่วยผมจะซวยไปด้วย  แต่ถ้าไม่ช่วยมันก็ยังไงๆอยู่  อยู่กันมาตั้งสิบกว่าปีเจ๊ไม่เคยเป็นแบบนี้ เฉยๆมันจะใจดำเกินไป  อาการที่เห็นชัดๆเลยนะครับคือ  เวลามันโทรหาเขาแล้วเขาไม่รับสายมันจะกระวนกระวายใจ  ร้อนรน  ใจนี่ร้อนเรียกได้ว่าถ้าใครได้เจโตแล้วอยู่ใกล้ๆเจ๊  จะหงุดหงิดกับอารมณ์ที่เจ๊แกส่งออกมา  รวมความว่ามันเป็นเอามาก  แหมยิ่งกว่าวัยรุ่นซะอีก  หายใจเข้าออกเป็นคนๆนั้น  นึกถึงตลอดเวลา

มาเช้าวันรุ่งผมก็ถามเจ๊ว่าเป็นไงเมื่อคืนได้ท่องมั้ย  มันบอกจำไม่ได้  ไม่ได้ท่อง  เออดีผมก็ช่างแม่งไปก่อน  วันนี้มีงานต้องทำ  ภารกิจเยอะ  แต่ทั้งวันเจ๊มันก็โทรหาพ่อหนุ่มขมังเวทย์  มันโทรทั้งวันจริงๆ  พอพ่อขมังเวทย์ไม่รับสาย  เจ๊มันก็ร้อนรน  เห็นแล้วก็เออมึงเอาเข้าไป  ตกเย็นจบภารกิจ  ก็ไปบ้านพี่นัน ณ หางดง  แกชวนกินข้าว  พอเย็นๆพระอาทิตย์เริ่มจะตกเอาอีก  เจ๊ก็ก้มหน้าก้มตาดูมันแต่โทรศัพท์  เดี๋ยวๆโทร  ผมก็เลยเล่าให้พี่นันฟังว่าดาวโดนของ  พี่นันแกก็ด้วยความหวังดี  เดินไปหยิบคาถามาให้ท่อง  ผมบอกพี่นัน  มันไม่ท่องหรอก  แค่สัมปจิตฉามิยังไม่พูดเลย   พี่นันเลยบอกให้เจ๊ลองพูด  มันก็ไม่พูดครับ  หลบสายตา  แล้วบอกพูดไม่ออก   ด้วยความรำคาญผมถามว่า พี่ดาวจะให้ช่วยมั้ย  ผมถามซ้ำสามครั้ง  เจ๊แกบอกให้ช่วยทุกครั้ง  ก็เอาวะช่วยแบบจัดเต็ม  

ผมให้เจ๊ไปเดินหาดอกไม้มา7สี  แล้ววานพี่นันจัดน้ำใส่ขันมาเพื่อทำน้ำถอนของ  ผมทำพิธีอยู่ราว10นาที  จากนั้นก็ให้เจ๊ดื่มน้ำเข้าไปเจ็ดอึก  เวลานี้ผมใช้ญานตรวจดูก็รู้ว่ามึงอ๊วกแน่  น้ำมนต์นี้จะขับคุณไสย อาคม ของไม่ดีต่างๆในตัวออกมา  ระหว่างนั้นพี่นันแกก็พาชมหนอน  มันเป็นหนอนผีเสื้อหรืออะไรซักอย่าง  เจ๊ดาวแกก็เดินตามมาด้วย  เวลานี้อาการเริ่มออก  เจ๊เริ่มๆหาว  มีอาการคล้ายลมตีขึ้น  ผมส่องอีกรอบ  เออได้เรื่องแน่  ผมเลยถามว่าพะอืดพะอมใช่มั้ย  อ๊วกได้นะ  เท่านั้นแหละเจ๊เดินออกไปอ๊วกทันที  อ๊วกพุ่งครับ  เจ๊ไปนั่งอาเจียนพักนึงก็เดินกลับมาหาผม  แหมพ่อขมังเวทย์โทรมาพอดี  ผมเลยบอกว่าอย่าเพิ่งรับสาย  ของมันตีกลับไปหาคนทำ  มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะอะไรรึ  ก็เพราะเจ๊แกพูดได้แล้ว สัมปจิตฉามิ  ทีนี้พูดปร๋อเลย  ยิ่งท่องนี่พ่อขมังเวทย์ก็ยิ่งโทรหาใหญ่    ซึ่งตามปกติพ่อขมังนี่ไม่เคยโทรลักษณะโทรจิก    

ผมให้เจ๊พักแป๊บนึงก็ให้ดื่มน้ำต่อ  เที่ยวนี้ดื่มเก้าอึกพักเดียว  อ๊วกต่ออีกรอบเสียละ  เที่ยวสองนี่ออกมาเยอะหน่อย  ช่วงที่เจ๊อ๊วกอยู่จิตผมสัมผัสกับพลังงานบางอย่างที่แรงพอสมควร  วนเวียนอยู่รอบๆโต๊ะที่ผมนั่ง  เอาวะมันเริ่มออกละชักอยู่ไม่ได้แล้วสิมึง  ผมตักน้ำเดินตามเจ๊ไป  ผมเอาน้ำราดลงบนหัวเจ๊แล้วก็ว่าคาถาต่อ  แหมทีนี้เจ๊ดีขึ้นละสิ  เดินกลับมานั่งคุยกันต่อ  เจ๊บอกผมว่า  เบาขึ้นเยอะ  สบายใจมากและไม่มีความรู้สึกอยากจะคุยกับพ่อขมังเวทย์  มิหนำซ้ำยังจะเลิกเสียเลย  เจ๊ถามผมว่าทำไมมันต้องทำกับพี่ด้วย  ผมก็ยิ้มกับมันแล้วตอบว่ามันเป็นกรรมไง  ก็พี่ดาวไปทำเขาก่อนหนิ  นั้นมั้ยเจ๊มองหน้าผม  แล้วสารภาพว่าจริง  พี่ไปทำใส่มันก่อนเพราะแค้นมันที่ไปหามันแล้วมันไล่กลับ  เออดูมันทีนี้มีแม่จอมขมังโผล่มาอีกคน   เจ๊มันก็ถามผมว่าแล้วมันไปทำใส่พี่ตอนไหน   ผมดูแล้วว่าทำตอนไหนไม่สำคัญ  มันสำคัญตรงที่โดนกระทำนี่แหละแล้วใช้ของแบบไหนทำ  ผมก็อธิบายความให้ฟังว่าเขาให้อะไรยังไง  อันนี้ไม่ขอบอกก็แล้วกัน  อีกอย่างนึงคือจิตมันยังโดนผูกอยู่  ก็เลยให้เจ๊แกจับลมหายใจแล้วว่าคาถาเรียกจิตตนเองกลับมา  เวลานี้ผมก็เอามือวางบนหัวเจ๊แก  แล้วก็ว่าคาถาเรียกจิต  จนดาวมันเริ่มมีความรู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น  เชื่อมั้ยครับอาการที่มันร้อนรนกระวนกระวายหายไปเลย  กลับมาเป็นเหมือนเดิม

อันนี้ก็ต้องขอเตือนท่านทั้งหลายไว้นะครับว่าเรื่องที่เล่ามาเนี้ยสังเกตุดีๆนะ  มันไม่ใช่ความรักที่แท้จริง  ถ้ารักกันจริงจะไม่ทำร้ายกันแบบนี้ครับ  รักกันมันต้องรักกันด้วยใจ  ปรารถนาให้คนที่เรารักมีความสุข  ไม่ใช่ใช้คุณไสยมาทำใส่กัน  อีแบบนี้มันทั้งรักทั้งเกลียด  ณ ตอนนี้ หลังจากผ่านการถอนคุณไสยมาได้สี่วัน  เจ๊ดาวก็ตัดสินใจขนข้าวของออกมาจาห้องพ่อขมังเวทย์แล้วครับ  เจ๊แกขอเลิกเลย   เห็นมั้ยครับว่าพอถอนแล้วกลับมาเป็นตัวของตัวเอง  เจ๊ก็ไม่ได้หลงไหลได้ปลื้มพ่อหนุ่มนี่ซักเท่าไหร่   

สำหรับช่วงนี้ผมจะพยายามเคลียร์งานให้จบ  จะได้ไปถวายหลวงพ่อซะที  แต่ก็ดีได้ถวายช่วงเดือนเกิด  ตุลาคมนี้ไม่พลาดแน่ๆเป็นการดีสำหรับหลายๆท่านมั้ง  ช่วงปิดเทอมพอดีก็คงมีเวลาไปด้วยกันได้  ถ้าผมไม่ตายเสียก่อนนะ  หนักหน่อยช่วงนี้ เครียด  ทุกข์  ไม่สบายใจ  เหนื่อยใจ มาครบ  เป็นช่วงที่สุดๆของผมในปีนี้  มันจะผ่านไปได้ครับทุกท่านก็เหมือนกัน  มันจะอยู่กับเราไม่นาน  เดี๋ยวมันก็ผ่านไป  อยู่ที่มันอาจจะผ่านไปแบบไม่ถูกใจเรา  ก็ขอเป็นแรงใจให้ท่านที่เจอวิบากกรรมเช่นเดียวกับผม  วันนี้ขอลาก่อน  ก็ขอจบเรื่องเล่าไว้เพียงเท่านี้  สวัสดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top