ตอน 23

by admin

ตอน 23

by admin

by admin

สำหรับวันนี้ก็จะเล่าต่อจากเดิมครับ…

วันนี้จะเป็นเรื่องของพญานาคต่อเนื่องจากคราวก่อนครับลืมไปนิดนึง …

หลังจากได้พบท่านเจ้าเมืองบาดาล ท่านพญานาคราชนั้น อ.ท่านก็ให้ขอบารมีท่านพญานาคราชขอดู การเกิดบั้งไฟพญานาคว่าเกิดจากสาเหตุใดให้ท่านพญานาคราชแสดงภาพให้ดู

ภาพที่ปรากฎคือ ผมเห็นงานคล้ายงานรื่นเริงเหมือนงานวัดในบ้านเรา มีผู้คนอาศัยอยู่มากครับน่าจะหลายแสนอยู่ บ้านเมืองเขาคล้ายๆของเราแต่เหมือนอยู่ในถ้ำ เห็นเจดีย์ใหญ่สีทองอร่ามเด่นชัด ด้านในมีพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้า นาคที่เมืองบาดาลนี่เหมือนคนเรานี่แหละครับ แต่หากจะให้เป็นนาคแบบที่อยู่ในน้ำก็เพียงแต่ใช้จิตอธิฐานร่างก็จะเปลี่ยน เมื่อถึงเวลาออกพรรษา เหล่านาคจะมีการทำบุญรื่นเริงกันและที่เขาเรียกบั้งไฟพญานาคนี่ก็เกิดจากเหล่านาคนั้นถวายดวงแก้วแด่พระพุทธเจ้าเพื่อแสดงความเคารพนอบน้อม

จากนั้น อ.ท่านก็ให้กราบลาท่านพญานาคราช ตอนที่คนอื่นกราบลานั้นท่านเข้ามากอดผมครับยังไม่ทันคุยกับท่าน อ.ท่านพาไปต่อที่อื่นก็เลยงงๆครับ แต่คงเกี่ยวพันกับท่าน

ด้วยความสงสัยครับเลยให้การบ้านน้องๆให้ไปถามท่านหน่อยแต่ผมยังไม่ได้ถามก็จะทดสอบน้องทั้งสองที่ฝึกมโนมยิทธิครับ

ก็ได้เรื่องตอบกันคนละทิศละทางเดี๋ยวเพื่อนบ้างเดี๋ยวน้องบ้างเดี๋ยวพ่อบ้างแหมจะให้ผมไปเป็นเพื่อนท่านซะและ ก็ขอจบเรื่องเมืองบาดาลไว้แต่เพียงเท่านี้

มาต่อเรื่องของการฝึกญาน8ครับ ครานี้ก็เป็นเรื่องของวัดชื่อดังวัดนึง

ความจริงไม่อยากเล่าครับ เดี๋ยวจะโดนท่านผู้อ่านบางท่านที่ศรัทธาจะว่าผม แหมแต่ต้องเล่าเพราะมันเป็นเรื่องน่าเล่าครับ ที่ว่าน่าเล่าก็เพราะผมนี่มีความสงสัยเกี่ยวกับวัดๆนี้ว่าทำไมเวลาคนมาทำบุญที่นี่ใส่ทองติดคอติดแขนมาพอมาวัดอีท่าไหนไม่รู้เกิดศรัทธาหนักถึงขนาดปลดสร้อยทองถวายเสียนี่ แหมบุญหนักอานิสงแรงกล้า มันก็เลยสงสัยครับแต่ไม่รู้จะถามใคร จากนั้นมานั่งแท็กซี่ปกติผมนั่งรถแท็กซี่จะไม่คุยกับคนขับครับ ขี้เกียจคุยพวกนี้แหมขุดอะไรมาคุยสารพัดพอคุยด้วยมักไม่ยอมหยุดลากยาวไปจนลงรถนั้นแหละ

วันนั้นคนขับรถชวนคุยเอ้าคุยซักหน่อย เรื่องน้ำท่วมบ้าง เรื่องรถว่างบ้าง เรื่องวัดวาบ้าง คุยไปคุยมามาจบที่วัดนี้ครับ แหมแกบอกว่าใครไปกรรมฐานวัดนี้จะเจริญรุ่งเรืองร่ำรวย ไอ้ผมก็ประเภทคิดครับแหมดีจังทำกรรมฐานแล้วมีตังร่ำรวยไปบ้างท่าจะดี…นั่นเอาเข้าแล้วไง..

ก็ถามแท็กซี่ว่าแล้ว พี่ไปมั้ยเผื่อจะรวยกะเขามั่ง แกว่าขับรถส่งคนมาวัดนี้รวยกว่าทิปเยอะ…น่านๆๆแกแน่จริงๆ ก็ฮากันครับ. ผมบอกแกว่าเพิ่งได้ยินครั้งแรกนี่แหละว่าทำกรรมฐานแล้วจะรวย เคยได้ยินแต่ทำเพื่อตัดทางโลก ต้องการพ้นทุกข์ หรือเจริญสติ แกก็บอกว่านี่วันก่อนรับลูกค้าประจำไปส่งได้ตังมาพันบาทถ้ารอกลับให้ค่ารอพันห้า ถึงว่าสิส่งคนไปวัดรวยกว่า

ตอนฝึกนั้น อ.ท่านก็ถามว่ามีใครอยากรู้เรื่องอะไรบ้างมีผู้ฝึกท่านนึงอยากรู้เรื่องคฑาที่แกเอามาด้วยแหมพอท่านนั้นถามอาจารย์เท่านั้นแหละภาพปรากฎทันทีครับ

ผมเห็นคฑานั้นในความเป็นทิพย์และเห็นแสงสว่างตรงปลายคฑาขณะดูอยู่นั้นสมเด็จองค์ปฐมท่านมาครับ ผมตกใจเล็กน้อยที่ว่าตกใจก็เพราะนานมากที่ไม่เคยไปกราบท่าน ขณะนั้นผมไม่ทราบว่าท่านผู้ถามกับอ.ชนะพูดอะไรกันอยู่ แต่ผมนี่ซิองค์ปฐมท่านตรัสว่าให้เอาคฑานี้ไปวางที่ตักท่านสัก10นาทีผมก็ถามท่านต่อว่าวางทำไมครับ(ผมนี่ยังโง่มากจริงๆครับ)

จากนั้นท่านแสดงภาพให้ดูครับปรากฎภาพคฑาขึ้นมา2อัน อันแรกมีแสงอ่อนๆสีขาวอีกอันแสงสว่างใสระยิบระยับลำแสงแผ่กระจาย เลยเข้าใจและว่าท่านจะสงเคราะห์ พอฝึกเสร็จก็คุยกับท่านนั้นครับ เรื่ององค์ปฐมท่านมา แกบอกว่าแกเห็นนิมิตหรือฝันไม่แน่นักนะยังไงท่านผู้นี้หากเข้ามาอ่านก็อธิบายความกันหน่อย แกว่าองค์ปฐมท่านมาบอกให้ทำคฑาหรืออะไรนี่แหละครับผมเรียกไม่ถูก รวมความว่าเกี่ยวข้องกับสมเด็จองค์ปฐมก็แล้วกัน ผมก็บอกให้แกทำตามที่สมเด็จท่านลงมาบอกครับ.

มีช่วงขณะนึงระหว่างที่ อ.ท่าน ถามว่าอยากรู้เรื่องอะไรอีกมั้ยตอนนั้น ผมมีครับอยากรู้เรื่องตัวเอง แต่มีท่านผู้ฝึกอีกท่านบอกอ.ว่าอยากรู้เรื่องสอบทหารตอนนั้นจิตผมเห็นภาพแก่สอบได้นะครับ และกำหนดดูเรื่องตัวเองที่ว่าต้องดูแต่ไม่กล้าถาม ก็เพราะแหมเรื่องเราน่ะมันไร้สาระครับ อยากรู้เรื่องสาวๆอะไรประมาณนั้นเพราะช่วงหลังนี่รู้สึกว่าจะเจอแต่สาวๆที่เคยเกี่ยวพันกะผมมา ตั้งแต่สมัยเป็นนักรบยุคกรุงศรีอยุธยาตามมาเกิดยุคนี้มากก็ไม่รู้ตามผมหรือตามหลวงพ่อ ผมก็จัดแจงดูเองเลยครับว่าคนส่วนใหญ่ที่ตามมานี่มีความเกี่ยวข้องยังไงขอบารมีพระท่านฉายภาพ อันนี้ขอเล่าคราวๆนะครับอายจริงๆ แหมสมัยนั้นมีเมียตั้ง17คนท่าจะว่างจัดล่ะถ้าสมัยนี้คงไม่รอดแน่มีคนที่สองคนแรกคงส่งไปเข้าเฝ้าพระยายมราชเป็นแน่

จากนั้นปรากฎภาพลอยกระทงครับ ผมเล่นลอยกระทงกับนางเหล่านั้นครบทั้ง17คนอีกทั้ง17คนนี่ดันอธิฐานให้เจอกันทุกชาติไปแหมรักกันจัดนะ อันนี้มันมีเรื่องแปลกครับตอนที่ผมไปดูหนังเรื่องสมเด็จพระนเรศวรภาคล่าสุด จะมีฉากลอยกระทงระหว่างบุญทิ้งกับเลอขิ่น แหมผมน้ำตาไหลพรากๆๆๆไปดูสี่รอบไหลสี่รอบ แปลกดี

เอ้าต่อ จากนั้นรู้ได้ด้วยจิตว่า17คนนี่หากตามมาเกิดชาติปัจจุบันแล้วมาเป็นเมียต่อก็ท่าจะยุ่งไม่รู้เกิดเป็นผู้ชายบ้างมั้ยแหมหากเจอกันโป๊ะเช๊ระลึกชาติได้จะขอเป็นเมียนี่ท่าจะคุยไม่รู้เรื่องกระมังครับ

ที่ตามมาแล้วได้เจอก็มากยังไม่ได้เจอก็เยอะครับ ไม่ใช่เฉพาะแต่เมียที่มาบริวารลูกหลานมากันอีกก็เยอะครับซึ่งทั้งหมดล้วนเกี่ยวพันกับหลวงพ่อทั้งสิ้น แต่จะว่าไปนะ

แหมตามมานี่ถ้าได้เจอกันคงจะได้คลุกคลีกันพักแหละ. ทั้ง17คนนี้มีความเกี่ยวพันกับหลวงพ่อนะครับในชาตินี้เจอแล้วแต่ยังไม่ครบ สำหรับเหตุผลที่ทำให้อยากรู้เรื่องนี้ก็เพราะก่อนหน้านี้ครับได้สอนมโนมยิทธิให้กับผู้หญิงคนนึงระหว่างที่คุยผมใช้เจโตดูจิตเธอว่านิ่งมั้ยติดขัดตรงไหนบ้างจะได้แนะนำกันตามสมควร

แหมพักเดียวภาพปรากฏเห็นเธอสวมชฎาห่มสไบสวยงามมากแต่เป็นมนุษย์นะในภาพน่ะก็มีความรู้สึกว่าเธอน่าจะเป็นสตรีสูงศักดิ์ในสมัยนั้นและเธอเป็นเมียผมในสมัยอยุธยามาก่อน

แหมลืมขอเธอก่อนแต่ไม่เป็นไรเล่าไปแล้ว

หลังจากได้คุยกันวันนั้นมีความรู้สึกว่า ผมคงต้องดูอดีตชาติในตอนนั้นสักหน่อยและก็เป็นภาพยุคนั้นสมัยนั้นแหมใหญ่โตนะไม่เบา ต้องการใครเป็นเมียนี่ส่งสารไปขอพ่อเขาก็ประเคนลูกให้ทันที จากนั้นดูเธอครับแหมที่ไหนได้เป็นลูกหลวงพ่อเสียด้วยในยุคนั้นก็ดูไปดูมาพอจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผมนี่ประเภทติดสงสัยครับ เอเราแก่แล้วยังจะทะลึ่งตึงตังอีกหรือคุยกะใครก็ทึกทักว่าอดีตเคยคลุกคลีกันมาเสียหมดนั่นเป็นอย่างนั้นไป

จากนั้นผมสอนมโนมยิทธิให้เธอระหว่างที่นั่งสมาธิแหมผมก็เอาซะหน่อยไปถามเทวดาว่าเธอนี่ชาตินั้นชื่ออะไร

เทวดาท่านยิ้มครับท่านบอกชื่อ….. ได้ยินแล้วขนลุก พอได้เวลาก็สอนญาน8ไปเรื่อยไอ้ครั้นจะบอกก็ไม่ใช่เรื่องก็เลยให้ไปดูเอง ผมฝึกเธอดูอดีตของตัวเองถอยไปทีละชาติได้ประมาน6-7ชาติ จากนั้นกลับมาชาติสุดท้ายก็ให้เธอดูครับว่าเป็นใครอะไรยังไง และให้เธอถามพระเกี่ยวกับชื่อเธอในชาตินั้นแหมตอบเกือบถูกใช้ใด้ดีทีเดียว

และย้อนหลังไปยันสมัยพระเจ้าปเสนธิโกศลนู้น แหมเป็นเมียมาหลายชาติอยู่ ระหว่างที่ผมฝึกผมก็ดูของผมไปด้วยวันนั้นฝึก2ชั่วโมงเศษ การฝึกเป็นไปด้วยดี ไอ้ความสงสัยตรงนี้แหละครับมันทำให้ผมต้องถามผู้รู้ ถ้าถามอ.ชนะท่านไม่บอกแน่ท่านต้องให้ดูเองแต่ผมดูเองมากกว่าสามรอบและเอาอีกสักที

ก็เลยตะล่อมถาม อ.วิ ตอนฝึกเสร็จ ชวนคุยเรื่องอื่นไปก่อนเพราะถามเลยดูท่าแกไม่ตอบแน่ แหมคุยอยู่พักนึงก็เอาเลยครับ. อ.มีเรื่องสงสัยเรื่องนึงครับอยากแน่ใจว่าใช่มั้ยใช่ แกบอกว่าไม่บอก นั่นเอาแล้วมั้ยล่ะ ผมยิงต่อเลยครับ อ.ผู้หญิงคนนี้ใช้พระ……หรือเปล่าครับ อ.วิท่านดูแป๊บนึงตอบทันทีว่า ใช่นะ แต่อย่าบอกเขา โฮๆช้าไปแล้วครับเธอรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร. อ.วิบอกรู้แล้วถามทำไม ผมหัวเราะกลบเกลื่อนจากนั้นก็ลากลับ

มาต่อกันเลยครับ…

วันนั้นหลังจากผมดูอดีตของตัวเองแล้ว อ. ท่านหันมาถามพอดีครับว่าอยากรู้อะไรมั้ย ผมบอกอยากรู้เรื่องวัด…….

วัดนี้ขออนุญาติไม่เอ่ยนามนะครับ

อ.ท่านให้ขอบารมีพระพุทธเจ้าท่านแสดงภาพวัดนี้ให้ดูครับเมื่อภาพปรากฏผมเห็นภาพโครงกระดูกเต็มไปหมดครับ ตอนเห็นครั้งแรกนี่ก็คิดว่าทำไมกระดูกมากหรืเป็นป่าช้ามาก่อน

จากนั้นอ.ถามแต่ละคนครับจนมาถึงผม ผมก็บอกไปตามที่เห็นครับ และภาพเป็นเหมือนของบางอย่างห่อในผ้าขาวปรากฏครับ รู้ได้ด้วยจิตว่าเป็นของเขมร นั้นมั้ยนี่วัดนะเนี้ย

จากนั้นอ.ท่านก็เฉลยให้ฟังเรื่องวัดดังกล่าวครับถึงสาเหตุที่เวลามีคนไปทำบุญผีเหล่านั้นก็จะเกาะดลจิตดลใจให้ถอดสร้อยแหวนเงินทองออกมาบริจาคหมด

วันนี้ก็ขอจบเรื่องญาน8แต่เพียงเท่านี้ครับ โอกาสต่อไปก็จะเล่าเรื่องพระศรีกับวาระสุดท้ายของพระพุทธศาสนาเมื่อครบวาระ5000ปี

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแต่หนหลังจวบจนปัจจุบันจงสำเร็จแด่ท่านผู้อ่านและผู้มีพระคุณทุกท่านเทอญ…..สวัสดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top