ตอน 24

by admin

ตอน 24

by admin

by admin

วันนี้ก็จะขอเล่าเรื่องพระศรีอารย์ก็แล้วกันครับ…..

วันนั้นที่ฝึกก็หลายเรื่องนะครับคงจะทยอยมาเล่าครับ เพราะเยอะจริงๆแหมใครที่ไปฝึกพร้อมผมก็มาช่วยกันเล่าบ้างครับ อีกนิดนะครับด้วยเกรงว่าท่านผู้ที่ไม่ได้อ่านเรื่องผมมาตั้งแต่ต้นจะปรามาสวิชาของพระพุทธเจ้าก็เอาเป็นว่าเล่าเป็นนิทานสนุกอ่านสนานก็แล้วกัน เอ้าเข้าเรื่องต่อเลยนะ

เรื่องพระศรีอารย์นี่มีอยู่ว่า

อ.: ให้ขอบารมีพระพุทธเจ้านะกำหนดดูว่า สมเด็จโตกับพระศรีอารย์นี่ใช่องเดียวกันมั้ย

ผม: ไม่ใช่ครับ จากนั้นพระท่านแสดงภาพให้เห็นหลวงปู่ทวดครับ ผมเลยตอบต่อไปเลย ว่า หลวงปู่ทวดครับ

อ.: อืม ถูกต้องนะ

ผม: เวลานี้ผมนี่เหงื่อแตกครับ ที่เหงื่อแตกก็เพราะร่างกายยังสั่นอยู่มาก แต่พออาจารย์ท่านถามคนอื่นผมก็หายสั่น พอท่านหันมาถามผมๆก็สั่นเหมืนเดิมครับ ออไม่แน่ใจนะครับรู้สึกว่าท่านอื่นจะบอกว่าหลวงปู่ดู่ แหมพอท่านนั้นตอบ อ.ท่านเลยให้ดูต่อครับ

ผมก็ตอบตามที่เห็นนะครับ อันนี้ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งเชื่อนะ ผมเห็นหลวงปู่ดู่ท่านนั่งพนมมืออยู่ข้างขวาของพระศรีอารย์ ก็ตอบอ.ท่านไปแบบนั้นครับ อีตอนนี้หัวสั่นตาเหลือกชักกระตุกเป็นการหนักครับ แล้วพูดต่ออีกว่า หลวงปู่ดู่เป็นอัครสาวกเบื้องขวา นั่นเอาเข้านั้นผม

อ.ท่านบอกว่าถูกต้องครับ

ผม:ตอนนี้ก็เป็นไงเป็นกันและครับ แหมตอบมาขนาดนี้แล้วเห็นอะไรก็ตอบแบบนั้นก็แล้วกัน

แหมชักสนุกครับตอบแล้วถูกนี่สนุกจริงๆ ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ อ.ท่านบอกถึงอัครสาวก

เบื้องซ้ายด้วยครับว่าคือใคร แต่ขออุบไว้นะท่านอื่นไปฝึกจะได้ทราบกัน

ผมขอเล่าเสริมอีกนิดนะครับ เรื่องหลวงปู่ทวดองค์เดียวกับพระศรีอารย์ นี่ผมไม่ทราบมาก่อนครับแต่มานึกย้อนหลังดู เห็นว่ามีบางอย่างสัมพันธ์กันหากท่านผู้อ่านอ่านเรื่องผมมาตั้งแต่ต้น จะทราบว่ามีอยู่ครั้งนึงผมไปฝึกวิชาสามเปิดบารมีองค์เทพ ตอนนั้นผมเห็นหลวงปู่ทวดลอยออกมาจากหลังพระพุทธรูป อีกทั้งตอนนั้นครูผู้สอบอารมณ์ยังถามผมอีกว่าพระที่มารับนี่คือใคร เห็นเหมือนผมมั้ยครับว่าน่าจะเกี่ยวข้องกันเป็นแน่

วันก่อนผมไปยื่นซองที่ประจวบครับ ระหว่างขับไปนี่ก็คิดว่าขากลับจะแวะกราบหลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคลเสียหน่อยหากมีเวลา ตอนนั้นก็ฟังหลวงพ่อสอนไปเรื่อยกำหนดลมไปใจเป็นสมาธิครับ อยู่ดีๆนึกขึ้นมาว่า เอ หรือว่าเราเป็นบริวารของพระศรีอารย์ มาฝากหลวงพ่อไว้ ถ้าเป็นอย่างนั้นดูท่าจะต้องรออีกล้านปีเศษ แหมไม่ไหวนานจัดต้องลงมาเกิดอีกก็เหนื่อยอีก

ไม่น่าเชื่อครับ พระศรีท่านมายืนหน้ารถผม ตอนนั้นก็เหยียบสักร้อยสามได้ครับแต่ไม่ตกใจครับท่านมาชุดเทวดาเครื่องทรงสวยงามมาก หน้าท่านสวยครับแหมจะเรียกสวยได้หรือเปล่าไม่ทราบจะหล่อก็ไม่ใช่ครับบอกไม่ถูก แต่งดงามจริงๆครับ ท่านยิ้มและบอกผมว่า

“ที่เธอคิดและสงสัยอยู่เวลานี้ อย่าได้วิตกไป เธออยู่ในวิสัยที่เราจะสงเคราะห์เธอและ เราได้ฝากคนของเราบางส่วนไว้กับพ่อของเธอ และคนเหล่านั้นอยู่ในวิสัยที่เธอจะสงเคราะห์ได้” ความจริงท่านพูดเยอะกว่านี้ครับ ระหว่างนั้นขนลุกขนชันตลอดครับ

เรื่องพระศรีอารย์ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ มาเรื่องภัยธรรมชาติกันต่อเลยครับ

ทีนี้ก็เรื่องภัยธรรมชาติครับ

อ.:ทีนี้ลองดูเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นปีหน้า ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ผม: ขณะนั้นท่านผู้อื่นก็ว่าไปเรื่อยครับ ส่วนผม ปีหน้าน้ำท่วมหนักครับแต่ที่หนักนี่

ภาคใต้ ครับ จมกันหลายจังหวัดครับ

อ.ลองดูซิมีอะไรอีกมั้ย

ผม: เขื่อนแตกไม่มี แผ่นดินไหว ตึกถล่มไม่มี แต่มีแผ่นดินทรุด แผ่นดินแยกครับ

อ.ซึนามิ มีไหม

ผม:ไม่มีครับ

อ.:ต้องดูกันต่อไปนะว่าที่เราเห็นจะเป็นอย่างไร

หากผู้ใดได้ดูข่าว ท่านจะเห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงประทับริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่โรงพยาบาลศิริราช หากท่านที่ได้มโนมยิทธิคงเห็นเหมือนผมครับ ส่วนท่านที่ไม่ได้มโนมยิทธิก็คงคิดว่าท่านทรงนั่งทอดพระเนตรแม่น้ำเจ้าพระยาและทรงไม่สบายพระทัยที่ประชาชนของพระองค์ต้องพบกับภัยพิบัติ

ความจริงพระองค์ทรงอภิญญาและทรงอารมณ์ฌานเป็นปกติครับ พระองค์ท่านเสด็จวันนั้น เทวดา พรหม มากันมากครับ มาเฝ้าพระองค์ หลายท่านอาจสงสัยเพราะเหตุใดเทวดา หรือ พรหมถึง มาเฝ้าพระองค์ ไม่แปลกครับพระองค์ทรงเป็นพระโพธิสัตย์ ใครๆก็ทราบแต่ที่ไม่ทราบกันคือ อีก5ชาติพระองค์จะลงมาตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลเบื้องหน้าในกัปถัดไปครับ บารมีท่านเต็มครับ

เทวดาเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นเทวดาที่เราเรียกกันว่า พระสยามเทวาธิราช ไม่ได้มีท่านเดียวนะมีมากครับ สยามเทวาธิราชก็คือเทวดาที่รักษาสยามประเทศ แต่ละท่านมีชื่อครับ พรหมก็มากันมากครับ มีหลายท่านถามผมว่าเขื่อนภูมิพลจะแตกมั้ย ก็บอกได้ครับว่าไม่

เพราะหากจะมีภัยอันใหญ่หลวงใดเกิดขึ้น เหล่าเทวดานั้นก็จะช่วยกันครับ ที่ว่าช่วยนี่ไม่ได้ช่วยอุดรูรั่วนะครับ แต่จะช่วยให้มนุษย์เห็นจุดที่จะทำให้เกิดความเสียหาย และแก้ไขกันก่อนจะเกิดความเสียหายครับ

เดิมทีตั้งใจจะเล่าอดีตชาติของพระองค์ท่าน แต่ก็เกรงว่าหลายท่านอาจมีคำถามในใจครับว่าใช่หรือรู้จริงหรือแน่ใจหรือว่านิวรณ์จะไม่แทรก อันนี้ท่าจะมีอยู่มากไม่แหละนะมากทีเดียว แต่ขอให้ท่านเก็บไว้ในใจต่อไปนะ เพราะอะไรก็เพราะไม่อยากให้ท่านผู้อ่านบางท่านลงอบายภูมิครับ ผมรู้แต่ว่าพระพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์ แสดงภาพให้เห็นย้อนไปในแต่ละชาติของพระเจ้าอยู่หัวครับ หากจะว่าผมก็เท่ากับว่าพระพุทธเจ้า อันนี้ก็ตัวใครตัวมันครับ เป็นเรื่องของท่าน แต่สำหรับผมนั้นผมยึดในคำสอนของหลวงพ่อคือ เคารพและไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า รักษาศีลเท่าชีวิต และที่สำคัญผมไม่ใช่พุทธโดยกำเนิด แต่รักและเคารพพระพุทธเจ้าครับ ท่านเมตตาผมหลายวาระ ก่อนหน้านี้คุยกับท่านไม่ได้ถามอะไรท่านก็ตอบครับตอบโดยการที่ท่านแย้มพระโอษฐ์ หากท่านแย้มพระโอษฐ์นั่นแปลว่าท่านอนุญาต

บางทีถามท่าน ท่านทราบว่าผมยังไม่ได้ยินท่าน ท่านก็ยกพระหัตถ์ แต่ทุกวันนี้สามารถถามท่านได้พูดกับท่านได้และได้ยินท่านตรัส ก็เป็นบุญของแขก ระยำคนนี้แล้วครับ

ท่านผู้อ่านในนี้มีมากที่อยากจะพูดคุยได้แบบผม จำไว้นะ อยากแล้วจะไม่ได้ เหมือนผมอยากได้เต็มกำลัง เลยต้องมานั่งสั่นเป็นเจ้าเข้า

ที่เล่าเรื่องต่างๆ ให้ท่านผู้อ่านได้อ่านนี่บอกตรงๆนะครับ ไม่ได้อยากจะพิมพ์ให้อ่าน เพราะผมงานมาก อย่างวันนี้จะเอานิดเดี๋ยว ก่อนพิมพ์จำอะไรไม่ได้แล้วที่ฝึกมา คิดแต่เพียงว่าเอาหน่อยเดียวแล้วกันเหนื่อยเหลือเกิน อย่าลืมนะว่าหัวใจผมทำงานแค่30เปอร์เซนต์ จะไปรักษาแหมหมอติดไปต่างประเทศ พอกลับมาน้ำท่วมอีก กรรมยังมีอยู่มากครับ ร่างกายจะเหนื่อยเป็นสองเท่าของคนปกติ พอยกมือพนมขอบารมีพระเท่านั้นแหละครับความจำกลับมา ลีลาการพิมพ์ก็เปลี่ยนไป ก็แปลกดีครับจะพระหรือพ่ออันนี้ดูกันเอง

เมื่อกี้เล่าเรื่องพระศรีอารย์จบ ก็อยากจะพักเปิดดูเวปอื่นบ้างอ่านข่าวบ้าง เอ้าบ่นยาวครับพระท่านให้สงเคราะห์ก็เอา แค่นี้เรื่องเล็กหลวงพ่อท่านทำหนักกว่าผมมากนัก ถึงไหนและเนี้ย

เอ้าต่อเทวดา พรหมนี่ มาทำไมรู้มั้ย ท่านมาแนะนำพระองค์ มาบอกว่าต้องแก้ตรงไหนถึงจะเป็นประโยชน์ ต้องป้องกันอย่างไร ต้องทำอย่างไรในการป้องกันเหตุ บางเรื่องพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบล่วงหน้ามาเป็นเวลาหลายสิบปี ท่านทราบทุกตารางนิ้วของประเทศนี้

ท่านทราบว่าต้องป้องกันอย่างไร แต่ไม่มีใครทำตามที่ท่านทรงแนะอย่างจริงจัง ทำน่ะมีแต่ไม่ทั้งหมด หากทำทั้งหมดจะเกิดเหมือนกันแต่ผลกระทบน้อย นี่เล่าไปก็ไหลไปเรื่อยเปื่อยนะภาพมันปรากฏก็ว่าไปตามที่เห็นนะ อันนี้ไม่เกี่ยวกับฝึกนะแต่ภาพมาก็บอกไปตามที่เห็น

ประเทศนี้ทุกท่านไม่ต้องกลัวครับว่าจะหายไปจากแผนที่โลก สยามประเทศนี้เป็นเมืองสุดท้ายที่จะทรงพระพุทธศาสนาไว้จนถึง5000ปี แต่ภาคใต้นี่จมที่ว่าจมนี่ไม่ได้หมายถึงจมไปในทะเลนะแต่จมน้ำ บารมีของพระที่ทรงสงเคราะห์มีมากอยู่เพราะกาลก่อนเป็นดินแดนที่พระสาวกพระพุทธเจ้าได้เผยแพร่พระพุทธศาสนาไว้ เนี้ยะๆไหลเนี้ยยิ่งดูจะยิ่งไหลยาวนะ

มาดูการฝึกนะครับญาน8เรื่องพระเจ้าอยู่หัว

ก่อนท่านมาเกิดชาติล่าสุด ท่านมาจากพรหม ก่อนมาเป็นพรหม เกิดในสมัยอยุธยา เป็นพระมหากษัตริย์ ย้อนไปอีกสมัยสุโขทัยเป็น ลูกกษัตริย์จากนั้นได้ครองราช ย้อนไปสมัย ต้นสุโขทัยก็เป็นพระมหากษัตริย์ ย้อนไปอีกสมัยเชียงแสนท่านก็เป็นกษัตริย์ ผมสามารถบอกเป็นชื่อได้แต่เอาไว้ให้ท่านผู้อ่านไปฝึกและได้รู้เองนะ วันนั้นท่านอื่นที่ฝึกร่วมก็คงทราบกันแล้ว เหตุที่ทำไมท่านเป็นพระมหากษัตริย์มาหลายชาติ ก็เพราะพุทธภูมิ ท่านลงมาสร้างบารมี มาทำนุบำรุงพระศาสนา รักษาแผ่นดินนี้ให้คงอยู่คู่พระพุทธศาสนาจนถึงวาระครบ5000ปี พุทธภูมินี่ส่วนมากก็รบกับข้าศึกกันมาตลอดปกป้องอาณาบริเวณไว้ให้คงอยู่ครับ

เอ้าเตือนกันไว้สักนิดนะหากใครคิดปรามาสพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ก็ระวังกันไว้ให้ดีก็แล้วกันวันนี้ท่านยังไม่รู้หรอกครับเพราะมารมันบังตากิเลสมันครอบงำ หากท่านทำให้กิเลสเบาบางลงไปจากจิต ท่านจะเข้าถึงพระบารมีของพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลพระองค์นี่แน่นอน

เรื่องต่อไปเหลืออะไรละ มนุษย์ต่างดาว สามเหลี่ยมเมอบิวด้า เหตุการสำคัญเมื่อพระพุทธศาสนาครบ5000ปี คุยกับทารกทางจิต จะเอาเรื่องไหนก่อนดีล่ะ อ่านกันเพลินก็ไปฝึกกันบ้างนะจะได้เห็นกันเองบ้าง

อันนี้เตือนอีกเรื่องมโนมยิทธินี่ไม่ได้มีเอาไว้เที่ยวโน้นเที่ยวนี่หรือดูโน้นดูนี่ หลวงพ่อท่านสอนให้มีนิพพานเป็นอารมณ์ ขึ้นไปกราบพระนอนเล่นนั่งเล่นข้างบน ให้จิตรักพระนิพพาน

เวลาตายจิตสะอาดเกาะพระนิพพานได้ก็ได้ไปอยู่ถาวร นี่ครับพอจิตเป็นทิพย์นี่ยาวครับพอและสี่ชั่วโมงและไม่งั้นไหลไปเรื่อยจริงๆครับ

วันนี้ขอจบเรื่องการฝึกญาน8ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ

บุญใดที่สำเร็จแก่ข้าพเจ้าขอให้บุญนั้นจงสำเร็จแด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน….สวัสดี

25-11-2011, 09:28 PM

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top