ตอน 38

by admin

ตอน 38

by admin

by admin

สวัสดีครับ…บางคนในทริปยังไม่มาเล่าก็ไม่เป็นไรแต่คิดว่าหลายท่านคงอยากอ่าน เอถ้าอยากอ่านจะไม่ได้อ่าน สโลแกนช้างเผือกครับ แต่สโลแกน9ทัพนี่เด็ดกว่าไม่แพ้กัน

คำว่าทำไม่ได้ไม่มีในเรา และก็เป็นเช่นนั้นครับ ก่อนอื่นขอกราบพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงเมตตาผมและสงเคราะห์ผม กราบท่านพ่อที่คัดสรรผู้เกี่ยวเนื่องมาให้ผมฝึก กราบพระศรีอาร์นที่ท่านร่วมสงเคราะห์ลูกหลานบริวารแห่งท่านพ่อ และของท่านที่ท่านจัดสรรมา แหมแต่คนที่ท่านจัดสรรนี่เล่นเอาเกือบตายแหละ

ทริปนี้เป็นครั้งที่3 หากรวมทุกครั้งและครั้งนี้บอกตรงๆว่าคนมามากกว่าทุกครั้งและผมเกรงว่าจะไม่รอด อีกใจนึงคิดว่าเอาอยู่ หากบางท่านบอกเอาอยู่นี่คงต้องหนีกันได้แล้ว แต่เอาอยู่ของผมนี่เอาอยู่คือเอาอยู่จริงๆครับ อ้าวเกือบไปและที่ขาดไม่ได้กราบขอบพระคุณอ.ชนะ และอ.วิ ที่เมตตาสงเคราะห์ ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี และลืมเสียสนิทต้องกราบขอขมาอ.ชนะที่วันนั้นแหมท่านป่วยแต่ผมแกมบังคับกระมังรบกวนท่านสอนญาน8 และท่านก็เมตตาสงเคราะห์เป็นอย่างดี กราบขอขมามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

วันนั้นขลุกขลักเรื่องรถตู้นิดหน่อย แต่ก็แก้ปัญหาได้ทันจึงทำให้กำหนดการเราคลาดเคลื่อนโดยผมหมายใจจะให้ฝึกช่วงเช้าซักรอบ และจัดเต็มช่วงบ่ายกะช่วงค่ำ เอาแบบเข็มข้น แต่ไม่ได้ดังต้องการ เช้าวันนั้นพวกเราแวะกินข้าวกันที่ประสาททองแถวประตู้น้ำพระอินทร์ พอมาถึงผมก็เริ่มสแกนครับแหมดูแล้วผมเอาอยู่หมดยกเว้นนึงคน วันนั้นหนุ่มผู้นี้เดินมาพร้อมพลังฌานแก่กล้าแบบสัมผัสได้ถึงบารมีปู่ฤาษีแหมผมก็ทักทายน้องเขาเป็นพิเศษกว่าคนอื่น หลังจากซัดมื้อเช้ามื้อเที่ยงมือเดียวกันเสร็จ มาถึงศูนยราว11.30 แหมมาถึงก็ให้จัดแจงแหละครับจัดโต๊ะเก้าอี้สำหรับกินมื้อเย็น ลงทะเบียนแจกป้ายชื่อ และพูดคุยเบื้องต้น จากนั้นก็สวดมนต์ สมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐานกัน เตรียมรับยันต์เกราะเพชร เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการก็เริ่มปฐมนิเทศโดย อ.ชนะ จากนั้นก็ลุยรอบแรกกันเลยครับ

รอบนี้ ผมไม่ได้ฝึกให้ใครแต่คอยควบคุมครูฝึกหนุ่มน้อยคนใหม่เวลานี้เรียกท่านนี้ว่าครูโต๊ดก็คงไม่มีใครค้านแหละครับ กับควบคุมการฝึกของครูส้มที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ออกสนามรบศึก9ทัพ การฝึกดำเนินไปได้ด้วยดีในวงของครูส้ม แต่ครูโต๊ดนี่สิเจอของแข็งเข้าให้ทั้งพ่อหนุ่มศิษย์ฤาษี กับคุณยายวัย82 เท่านั้นยังไม่พอยังเจอน้องท่านนึงที่ปรามาสพระอีก แหมปราบเซียนครับ ผมเลยบอกว่าใครไปได้ให้

พาไปก่อนเลย สรุปไปๆมาก็ไปได้ไม่กี่คนไปไม่ได้ร่วมสิบคน ก็ไม่เป็นไรนี่เพิ่งรอบแรก รอบแรกจบนี่ล่อไป4โมงครึ่งได้จากนั้นก็พักผ่อนรอทานมื้อเย็นจัดแจงเครื่องนอนครับ แหมให้ใครไปอาบน้ำนี่แทบไม่มีใครอยากจะอาบซักคนแต่ละคนตื่นเต้นพูดคุยจับกลุ่มกันส่วนผมเดินไปเดินมาบ่นไรไปเรื่อยเปื่อย พอได้เวลาราวๆทุ่มเศษก็สวนมนต์ทำวัตรเย็นครับนำโดยอ.วิ แหมพอดีตอนนั้นผมไม่ได้เข้าไปสวดด้วยมัวแต่จัดแจงแผ่นดวงที่เราจะนำไปไว้ใต้ฐานพระสมเด็จองค์ปฐมข้างบนวิหาร จากนั้นราวสองทุ่มเศษมีพระคุณเจ้าจากวัดพระบาทท่านมาแหมเป็นครั้งแรกที่สนทนากับพระแบบว่าจะชิ่งก็ไม่ได้ เพราะผมคุยกับพระไม่เป็นเดี๋ยวเกินไปใช้ศัพย์แปลกขึ้นมาท่านอาจงงได้ว่าไอ้หมอนี่มาจากโลกไหนเลยชิงบอกท่านก่อนแหมท่านคุยสนุกผมก็ฟังเพลินครับจนอ.วิ ท่านนำสวดเสร็จแล้วผมก็นิมนต์ท่านเทศน์ต่อจากนั้นตามด้วยถวายสังฆทาน ยาวจนมาถึงราวสี่ทุ่มครับผมให้ทำภาระกิจส่วนตัวกันหนึ่งชั่วโมงและจะต่อด้วยฝึกพิเศษยามค่ำคืนที่ทุกคนรอคอย ระหว่างรอเพื่อไม่ให้เสียเวลาก็โซโล่กันเลยเริ่มจากลูกชายสุดรักของพี่โอ๋ เจอครูส้มจัดไปจนไปได้แหละครับ ผมเริ่มเล็งเห็นว่ามีคุณยายท่านมานั่งรออยู่ครับท่านอยากให้ผมสงเคราะห์รอไปรอมาอ้าวไหนนอนไปซะได้ ใจท่านเกินร้อยครับผมคงต้องจัดเต็ม ช่วงนั้นราว5ทุ่มได้แหมอากาศอบอุ่นเกินจนตัวเหนี่ยวแหละครับ เลยย้ายมานั่งข้างนอกเตรียมลุยแบบชิวๆ นั้งกินไปคุยไป จากนั้นแหมรุ่นหนึ่งเขามีการจัดทำเสื้อศึก9ทัพ ก็ขายก็ไม่แพงครับทุน150ขาย250บาทกำไรร้อยบาท ยกให้ศูนย์พุทธศรัทธา ได้บุญกันไปก็ใส่โชว์กันหน่อย

จากนั้นก็ถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยครับทุกคนอยากดูภาพ4มิติครับผมก็จัดเต็มครับ แสดงภาพเมืองอโยธยาศรีรามเทพนครขึ้นมาไว้บนโต๊ะ เคยทำแบบนี้มาแล้วตอนไปเชียงใหม่คราวนี้ผมจัดเต็มกว่าเชียงใหม่ครับไม่เอาแค่เมือง แต่เอาแบบมีคนเดินไปเดินมา มีการละเล่น มีตลาด มีการเคลื่อนไหวของคนด้วย แหมก็เห็นกันหลายคนครับหมุนได้ด้วย เพลินกันไปสำหรับคนเห็นใครไม่เห็นก็อดเห็นกันไปเพราะการแสดงภาพแบบนี้ใช้พลังมากพอสมควร จากนั้นก็เล่าความเป็นมาของ9ทัพสมัยพวกพม่ารามัญยกทัพมารังแกเรา ต่อด้วยการย้อนอดีตเล่าเรื่องราวประวัติของหลวงพ่อ ความเป็นมาของเรื่องราวในอดีต แหมมันเป็นไฮไลท์แหละครับไม่มีใครไม่มันส์ จากนั้นต่อด้วยการให้ดูอดีตชาติของผมและให้ดูชื่อที่พระท่านเรียกผม เป็นการดวลกันระหว่างรุ่นหนึ่งกับรุ่น2 มันส์ครับ แต่ไม่เสียแรงรุ่น2เราได้ดาวประจำรุ่นครับไม่ใช่ใครที่ไหน น้องแอร์ครับเป็นอีกท่านที่บอกชื่อผมได้ถูกต้องแบบบอกทีละคำเรียงไปเรียงมา เร้าใจมากครับ จากนั้นก็ต่อด้วยการเล่าเรื่องตัวเองและความก้าวหน้าในการปฏิบัติ รวมถึงความสามารถพิเศษสุดของผมเกี่ยวกับเจโต เล่าไปเล่ามาเลยสอนซะด้วยเลยครับ แหมทุกคนในคืนนั้นสนุกสนานกันมากจากนั้นผมเล็งเห็นแล้วว่าหากเพลิดเพลินกันต่อไปจะไม่ได้นอนกันเป็นแน่เพราะอีกชั่วโมงครึ่งก็จะตี4 และจะต้องมาสวดมนต์เช้ากันก็ปล่อยให้ไปนอนกันครับเสียดายที่เวลาน้อยเลยขาดช่วงอับดุลไป ช่วงอับดุลนี่พวกช้างเผือกรู้จักดีครับอับดุลเอ้ย ถามไรตอบได้ นั้นเอาเข้านั้น แหมมันส์ครับเสียดายเวลาน้อยไม่งั้นยาวผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกช้างเผือกฝึกกันตั้งแต่3ทุ่มยันตี4 มันไม่นอนเพราะอับดุลนี่แหละครับ เออทริป3นี่ยังไม่แน่นะจะได้เจออับดุลมั้ย พอแยกย้ายกันเข้านอนก็มีน้องท่านนึงมันคงจะคึกจัดมานั่งถามอับดุลกะผมยาวยันตี4ใครนอนไม่หลับมันก็ทยอยมานั่งกะผมยันแจ้งไก่ขันเออ ไก่ที่นี่แปลกตี2ครึ่งขันและครับ จนเค้าสวดมนต์กันผมถึงได้แวปไปอาบน้ำและมาคุยกะรุ่นบุกเบิกในครัว

เวลานี้ผมตรงทรงฌานตลอดเพราะไม่งั้นง่วงครับการทรงฌานนี่ดีครับไม่ง่วง ไม่ปวดฉี่ แหมจนชาวครัวเข้าบอกน้องบอลเอาแรงมาจากไหนทำไมคึกจัง แหมคึกจริงๆครับแรงยังเหลือเฟือ จากนั้นทานอาหารเช้ากันครับและเดินทางไปวัดพระพุทธบาทกลับมาราว10.30 ก็มาเก็บตกคนที่ยังไม่ได้แหละครับ ช่วงนี้เป็นอีกช่วงที่ระทึกครับ ผมยังไม่เคยเจอคนที่ฝึกแล้วไปไม่ได้เกิน2คนเลยและคราวนี้เจอ6คนหากจำไม่ผิดก็คงจะต้องตายกันไปข้างนึง ทีมเสบียงก็เริ่มจัดแจงแบรนด์มาโด๊ปละครับ บอกตามตรงว่าวิธีพิเศษนี่ไม่จำเป็นไม่เกี่ยวเนื่องผมไม่ทำจริงๆครับ

ไม่อยากจะเล่ามากในเรื่องฤทธิ์เรื่องอัศจรรย์ แต่แหมนะมันอดไม่ได้เพราะพวกท่านมันชอบอีแบบนี้ ก็ต้องเล่ากันนิดหากใครเคยโดนชาร์จแบตคงเข้าใจครับ มีหลายคนที่ผมดึงจิตขึ้นไปด้วยบารมีพระแหมชักโม้ๆและโม้ไม่โม้ดูรูปที่ลงแล้วกันครับว่ามันดึงจริงมั้ยกล้องที่ถ่ายเป็นกล้องคนละตัวแต่ภาพออกมาจะคล้ายๆกันที่บริเวณมือครับ ไอ้วิธีนี้ปกติใช้แค่คนสองคนคราวนี่ล่อไป5-6คน มันส์คนดูแหละครับคนทำไม่มันส์ เหนื่อยแทบขาดใจครับ ภาพมีอีกในเฟสบุคก็ไปดูกันได้ครับ เออไปกันจนหมดเหลือพ่อหนุ่มคนเดียวแหมพ่อหนุ่มคนนี้แก่มากไปด้วยแรงครูปู่ฤาษีเล่นเอาครูโต๊ดกะครูส้มไม่กล้าฝึกให้ ซวยผมแหละครับก็ต้องเจรจากับท่านฤาษีกันหน่อยคุยไปคุยมาท่าจะไม่รู้เรื่องแหละครับ

เลยพักยกออกมาคุยกับอาจารย์ว่าเอาไงดีเหลือคนเดียวแต่ผมตัดสินใจกลับไปลุยอีกทีครับคราวนี่ได้ก็ดีไม่ได้ก็ช่างผมเริ่มเจรจากับญานท่านฤาษีท่านนี้ แหมท่านเมตตาครับแต่ท่านดุ คุยไปคุยมาชักไม่รู้เรื่องแหมผมเลยถามพ่อหนุ่มว่าตัดสินใจเด็ดขาดหรือยังว่าจะไม่กลับมาเกิดอีกพ่อหนุ่มนี่ตอบดังฟังชัดครับผมเลยจัดเต็ม ครับชาร์จแบตชุดใหญ่ต่อด้วยนำลาพุทธภูมิและอัดกระแสเมตตาแผ่ให้อีกยก เรียกว่าชุดใหญ่เล่นซะพ่อหนุ่มต่อมน้ำตาแตกร้องห่มร้องไห้ ขอบอกว่าผมไม่ได้ไปแกล้งอะไรมันนะ จากนั้นผมก็คุยกะฤาษีท่านนั้นใหม่ครับว่า ผมเคารพท่านและสิ่งที่ผมสอนเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอน สำหรับผมไม่มีฤาษีไหนใน3โลกนี้จะหยุดผมได้และผมเป็นลูกฤาษีลิงดำ ผมจะนำน้องไปให้ได้ เออเอาแล้วแหมเล่นบทหนัก จากนั้นผมก็อัดแผ่เมตตาอีกชุดใส่พ่อหนุ่มและเจ้าเวรนายกรรม เวลานั้นเที่ยงเศษก็เลยบอกว่าให้ไปกินข้าวก่อนเดี๋ยวต่อตอนบ่าย ระหว่างเดินไปกินข้าวพ่อเจ้าประคุณนี้ร้องใหญ่เอาเออร้องไปอยากร้องร้องไป พอมาช่วงบ่ายแหมพ่อหนุ่มท่านนี้ก็ไปได้และครับ เล่นเอาหมดแรงช่วงบ่ายนี่ไม่มีอะไรมากครับฝึกตามปกติจากนั้นราว4โมงเย็นก็ได้น้ำแผ่นดวงไปไว้ใต้ฐานพระกันและก็มาต่อด้วยการชาร์จแบตแหมหลายคนชอบกันจัง ก็เลยจัดให้ทุกคนครับก็เล่นเอาเหนื่อยล่ะครับ ได้เวลาก็ร่ำลากันผมก็หมดสภาพไปแต่ใจเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มที่ทุกท่านมาด้วยจิตอันเป็นกุศล มาแล้วไม่เสียเวลาเปล่าได้อะไรหลายๆอย่างกลับไป

วันนี้ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ…สวัสดี

เมื่อวานนี้, 10:54 PM, P. 182

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top