ตอน 39

by admin

ตอน 39

by admin

by admin

สวัสดีครับ…วันนี้ขออธิบายความศัพย์เฉพาะกันสักนิด…เดี๋ยวนี้วัยรุ่นอ่านเยอะเรื่องฌานนี่จบยากเพราะยิ่งอ่านจะยิ่งงงเอางี้วันนี้จะเอาให้หายงง

จริงๆอารมณ์ฌานนี่ก็ไม่มีอะไร มันเป็นของง่ายๆหากเข้าใจนะแต่ไปพูดให้มันยาก ฌานคือการทรงอารมณ์อยู่ การทรงอารมณ์อยู่เรียกว่าการเพ่ง คือการตั้งใจไว้ นั่นคือปฐมฌาน ปฐมฌานเนี้ยมันมี วิตก กับ วิจาร ไอ้วิตกเนี้ยมันก็คือการนึก เรานึกว่าเราจะภาวนา พุทโธ หรือ นะมะพะทะ ส่วนวิจารนี่คือใคร่ครวญ ขณะเราภาวนาเราก็ใคร่ครวญว่าเออนี่เราท่องครบมั้ย พุทโธ ตลอดมั้ย เราว่าพุทโธนี่เราว่าอยู่หรือเปล่า อะไรแบบนี้ เค้าเรียกวิจาร 

พอถึงทุติยฌานคำภาวนาที่เราว่านั้นมันจะหายไป มันหยุดภาวนา คือว่าอยู่คำภาวนามันหายไปเฉยๆ มันหายไปเอง อีแบบนี้เรียกว่าตัดวิตกกับวิจาร จริงๆต้องไม่ใช่เราเลิกภาวนานะ ต้องให้มันเลิกเอง ทีนี้เมื้อมันเลิกเองจิตจะเป็นสมาธิดีขึ้น มีความชุ่มชื่น แต่เมื่อมันหายนี่นะพวกที่นั่งสมาธิใหม่ๆพอคำภาวนาหายก็คิดว่าเออนี่กูลืมภาวนาแล้วหรือ เลยกลับไปท่องคำภาวนาใหม่ อีแบบนี้เสร็จเลยมันกลับไปปฐมฌานอีก เวรกำ เพราะเข้าใจผิดไงมันถึงไม่ไปถึงฌาน3ซักที

ทีนี้พอมาถึงฌานที่3 ไอ้ความชุ่มชื่นใจมันหายไป มีอาการคล้ายๆตัวตึงๆเป่งๆ ความจิตตัวมันเหมือนเดิมนั่นแหละแต่จิตมันตั้งมั่นมาก หูได้ยินเสียงภายนอกน้อยลง ลมหายใจเบาอารมณ์มันทรง สบายๆ ใครจะทำอะไรกระโดดอยู่ข้างๆ เราจะไม่รำคาญ เรานอนอยู่เขากระโดด เราเฉยจริงๆเรารู้นะว่าใครทำอะไรแต่เราเฉยไม่รำคาญ 

พอเข้าฌาน4กายกับจิตมันแยกกันเด็ดขาด ความจริงกายกับใจมันเริ่มแยกกันตั้งแต่ฌาน1แล้ว คือปกติได้ยินเสียงอะไรรบกวนเราจะรำคาญ ทีนี้ฌาน1เราได้ยินเสียงแต่ไม่รำคาญ แสดงว่าจิตมันเริ่มแยกกับกายนิดหน่อย พอฌาน2จิตแยกกับกายมากขึ้นอีกหน่อยแต่จิตยังอยู่ในตัวยังรับรู้เรื่องของประสาท ฌาน3 พอจิตมันทรงตัวมากขึ้นแต่ยังรับรู้ประสาทสัมผัส พอเข้า4จิตมันแยกกับกายเลย ไม่ยอมรับรู้เรื่องของประสาททั้งหมดไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เสียงระเบิดดังใกล้ๆยังไม่ได้ยิน แต่ต้องเป็นฌาน4ละเอียดนะ เวลาเค้าจะถอดกายในท่านว่านี่แหละต้องออกด้วยฌาน4ละเอียดออกฌานอื่นไม่ได้ พอเข้าใจกันมั้ยลองไปทำกันดูครับ

วันนี้ขอจบแต่เพียงเท่านี้ครับ…ราตรีสวัสดิ์

07-02-2012, 11:00 PM P.185

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top