ตอน 40

by admin

ตอน 40

by admin

by admin

สวัสดีครับ…ผ่านไปอีกหนึ่งทริป..สงครามช้างเผือกครั้งที่2 ผมมาทริปนี้ด้วยความกังวลใจและรู้สึกกดดันกับสิ่งที่ผ่านๆมา ทุกทริปการฝึกทุกท่านที่มานั้นได้สัมผัสอารมณ์พระนิพพานกันหมด คราวนี้มันเลยกลายเป็นแรงกดดันตัว

เอง หลายครั้งที่ผ่านมาผมก็สงสัยครับว่ามันฟลุ๊คหรือเปล่า ช้างเผือกรุ่น2นี้ ผมหายสงสัยแล้วครับ มันไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผมเป็นคนขี้สงสัยครับ ก็คิดแหละครับว่าจะเป็นไปได้ยังไง บางคนอารมณ์ตั้งไม่ถูกคำ

ภาวนาไม่ได้ แม้แต่ชื่อหลวงพ่อยังไม่รู้จัก แล้วแบบนี้ผมจะมีปัญญาอะไรไปช่วยเขา ครั้งนี้มาฝึก18คน ไปไม่ได้5คน ท้อครับแต่ไม่ถอยเพราะผมบอกแล้วว่าผมจะทำทุกทางที่จะทำให้ท่านไม่เสียเวลามาฝึกกับผม แต่5คนนี่หนัก

ครับ ครั้งนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเหนื่อยที่สุดกับการฝึกมโนมยิทธิให้ท่านทั้ง5คน 

มี3คนที่มาด้วยการแนะนำของพระคุณเจ้า ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดโขงขาวท่านแนะนำมาแหมใส่ชุดขาวกันมาเต็มยศ ผมว่านะทุกคนเห็นผมนี่คงคิดแหละว่าไอ้เนี้ยหรอครูฝึกกรรมฐาน ท่าทางไม่น่าเลื่อมใส มันจะสอนใครได้ เออผม

ว่าเป็นตัวผมก็คิดแบบนี้แหละครับ แต่ก็ช่วยไม่ได้มากันแล้วหนิ จะกลับก็ไม่ได้แล้วเจอผมล็อคคอจับไปปฐมนิเทศน์ก่อนเลย คราวนี่มีทั้งคนใหม่คนเก่าและคนไม่รู้อิโน่อิเหน่ แหมคงจะมันส์แหละ สอนไปสอนมาผมก็ไม่รู้เขารู้เรื่อ

งกันมั้ย ก็พูดส่งเดชส่งคุณ ไปเรื่อยเปื่อย โสดาบันเป็นไงพล่ามยาวว มโนมยิทธิเป็นไงก็ว่าไปเรื่อยคับ พูดไปพล่ามมาก็จับสวดมนต์ สมาทานตามเรื่องตามราว จากนั้นยกพานครูอธิฐานแล้วลุยกันเลย

วันแรกล่อกันตอนสิบโมงครึ่งด้วยความตั้งใจว่าคราวนี้ถ้าใครไม่ได้ผมก็จะปล่อยไม่ช่วยแบบที่เคยช่วย ยอมรับตรงๆนะครับเห็นความตั้งใจของท่านที่มาฝึกผมอดไม่ได้จริงๆที่จะไม่ช่วย พวกเขามาเพื่อให้ผมสอน ผมก็สอน เพราะ

เขาไม่รู้จัก ฝึกเองไม่ได้ เขาถึงมาหาผม หากแต่ตัวผมจะคิดว่าช่างแม่งช่างมันผมทำไม่ได้จริงๆ ก็พยายามช่วยครับ ตั้งอารมณ์ จับภาพพระ เคลื่อนจิต วางเรื่องวิตกกังวล แหมเทคนิคต่างๆล่อเสียหมด ยังไปกันไม่ได้ เหนื่อยใจ

ครับ แต่เข้าใจว่าไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้ทุกคนอยากจับภาพพระได้ แต่มันทำไม่ได้ ผมคิดอย่างเดียวว่าหากพวกเขาทำได้คงไม่มาให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างผมสอนเป็นแน่ อายุอานามก็มากกว่าผมหลาย ยอมมาโดนผมดุด่าว่า

กล่าว กำลังใจพวกนี้ใช้ได้ครับ ในเมื่อความดีที่พวกเขามีต้องการปฏิบัติและกำลังใจเต็ม มีหรือคนอย่างผมจะปล่อยไป ผมไม่ปล่อยครับแถมบอกอีกด้วยว่าผมจะเอาไปจนได้ 

ด้วยบารมีและความเมตตาที่พระและพ่อมีให้ผม รายละเอียดการพาไปผมไม่ขอเล่าให้เจ้าตัวหรือผู้อยู่ในเหตุการณ์มาเล่าเองจะดีกว่าผมเล่า ทริปนี้เล่นเสียผมเดินไม่เป็นจนต้องเอาเจ้าภพ กับเจ้าอุย นักรบจากทริปรุ่นหนึ่งมาช่วย

ฝึก แหมเล่นเอาน้องภพหลอนแหละครับเจอบารมีพระเข้าไปทนกระแสพระไม่ไหว สั่นอย่างกะอากาศติดลบ20องศา ผมว่านะตอนนี้น้องๆมันคงเข้าใจผมมากขึ้นว่าผมต้องโดนอะไรบ้างต้องเหนื่อยแค่ไหน

ทริปนี้หากพระท่านไม่สงเคราห์พ่อท่านไม่ช่วย รับรองครับว่าไปกันไม่ได้ ท่านพ่อช่วยลูกหลานท่านจริงๆ ไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไม ผมดีใจกับทุกท่านด้วยที่ท่านมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจัง พวกท่านที่มาฝึกทุกคนทำให้ผมมี

กำลังใจที่จะสอนต่อไป พวกท่านเป็นส่วนนึงในชีวิตผม พวกเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน ทุกท่านที่มาอย่ากราบผมเลยครับผู้ที่ท่านควรกราบคือพระกับท่านพ่อ และผมต่างหากที่ต้องกราบพวกท่าน พวกท่านทำให้ผมรู้ว่า

หลวงพ่อรักลูกหลานท่าน และพวกท่านทำให้ผมเห็นความพยายาม มุ่งมั่นที่จะทำให้ตัวเองเลวน้อยลง ผมต่างหากต้องกราบความดีที่พวกท่านได้กระทำ 

ยังไงก็เชิญท่านประธานรุ่นเล่าก่อนเลยก็แล้วกันครับ….

13-02-2012, 01:43 AM  P.192

ทริปสงครามช้างเผือกครั้งที่2นี้….ผมมีเรื่องประทับใจที่สุด2เรื่องครับคือ 

1.ถวายสังฆทานและปัจจัยแด่หลวงพ่อประสิทธิ พระอรหันต์แห่งนครพิงค์ คณะเราไปเป็นคณะสุดท้ายพอดี ปัจจัยที่ท่านโอนมาเสมือนท่านและผมได้ทำบุญร่วมกัน

2.ถวายปัจจัยและสนทนาธรรมกับครูบาเทือง ก่อนหน้านี้ผมมารอบนึงแล้วครับตอนนั้นท่านไม่อยู่และทราบมาว่าพบท่านค่อนข้างยาก อีกทั้งแขกที่มาก็มากมายนัก ครานี้คณะเราก็มีโอกาสไปและจังหวะเหมาะท่านอยู่รับแขก


พอดี แหมแขกมากันมากมายครับผู้ที่มากราบท่านนั้นถวายปัจจัยเสร็จท่านก็รดน้ำมนต์แล้ท่านบอกคณะนั้นว่าท่านจะไปดูงาน ที่ว่าดูงานนี่อาทิตย์หน้ามีงานวันเกิดท่านครับท่านคงไปดูความเรียบร้อย คณะเราก็นั่งหน้าละห้อยทั้ง

ง่วง ทั้งเหนื่อยจากการกรำศึก ทีนี้ถึงคิวคณะเรา ผมกับชาวคณะร่วมถวายปัจจัย แล้วท่านมองมาทางพี่หมู พอดีว่าก่อนหน้านี้วันสองวันพี่หมูแกมาด่อมๆมองๆหาที่พาทริปมากราบ พอดีวันนั้นพี่หมูแกพบครูบาพอดี แล้ววันนี้ท่านก็

จำพี่หมูได้ ท่านมองเสื้อแล้วถามพี่หมู ว่า สงคราม9ทัพหมายถึงอะไร แหมพี่หมูนี่ก็จริงๆดันบอกท่านว่าผมเป็นครูฝึก แน่ะเอาเข้านั้นโยนมาให้กูซะงั้น จริงๆกับพระกับเจ้าผมไม่ค่อยอยากคุยด้วยเพราะผมใช้ศัพย์ไม่เก่ง อีกทั้งท่าน

ก็พูดสำเนียงเหนือฟังไม่ถนัดกะอยู่เงียบๆ แกโยนมาก็งานเข้าแล้วกูยิ่งมึนๆ งงๆ ง่วงๆ หายง่วงเลยทีนี้ ท่านก็ถามซ้ำครับว่าหมายถึงอะไร ผมตอบท่านว่าคณะเรามาปฏิบัติกรรมฐานกัน เรารบกับนิวรณ์ครับ ท่านก็บอกว่า

นิวรณ์5น่ะหรือ ผมบอกว่าใช่ครับ ท่านถามต่อว่าแล้วอีก4ล่ะ นั่นเอาแล้ว ผมขำนิดนึงครับแหมเกรงตอบเดี๋ยววงแตก ท่านถามต่อว่าแล้วรบชนะมั้ยล่ะ มันเป็นกิเลสๆหมดมั้ยล่ะ ผมก็ยิ้มครับแล้วตอบท่านไปว่า ไม่ครับแต่พวกเรา

ทำให้มันเบาบางลง นั่นเอาเข้านั่นได้เรื่องล่ะครับ ตอบแบบนี้ โดนใจท่าน คราวนี้ก็ยาววววว สนทนากันยาววววภาษาบ้านเราเรียกคุยถูกคอ เออแหมคณะเราทำชาวบ้านงงๆแหละครับ ก็เล่นซะชั่วโมงเศษ ผมหันไปมองข้างหลัง 

แม่จ้าววววคนรอคิวกราบท่านบานนนนนนั่งกันเพียบบบบ แหมท่านว่าคราวหน้าถ้ามาให้มาหาท่านด้วย ท่านถูกใจครับ ท่านว่าวัยรุ่นสมัยนี้มีน้อยที่จะเข้าหาธรรมมะแบบปฏิบัติ คนเชียงใหม่นี่ไม่เหมือนสมัยก่อน หาคนปฏิบัติมี

น้อย ยิ่งชาวบ้านนะ พูดเรื่องนิพพานนี่เค้ากลัวกัน นิพพานนี่คือต้องตายก่อนพวกนี้กลัว แสนชาติก็ไม่ได้ไป แหมคุยไปคุยมาก็เกรงใจคนอื่นแหละครับรอกันนาน ไอ้ตัวผมตอนแรกก็คิดครับว่าถวายเสร็จคงกลับเลยเพราะหลายคน

บอกท่านไม่ค่อยคุยหรอก เจอคณะเราเข้าไปยาววววเลย แหมสุขใจกันถ้วนทั่วครับ 

หากมีโอกาสทริปช้างเผือกรุ่น3 ไพร่พลมากันมากคงจะได้ไปกราบท่านและสนทนาธรรมกับท่านอีกเป็นแน่ครับ 

มาๆท่านผู้อ่านมาโมทนาบุญทั้งสังฆทานและสร้างวิหารและทานร่วมกัน

13-02-2012, 09:51 AM  P. 192

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Top